ABAC คือ
มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่มีระบบการสอนหลักสูตรนานาชาติ โดยมหาวิทยาลัยได้ใช้ตัวอักษรย่อในภาษาไทยว่า มอช. และภาษาอังกฤษว่า AU ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมี 3 วิทยาเขตด้วยกัน วิทยาเขตหัวหมาก , วิทยาเขตสุวรรณภูมิ (บางนา) และ City Campus ถนนราชดำริ สีประจำสถาบัน น้ำเงิน ขาว แดง
เชื่อหรือไม่ว่า…แม้ตอนนี้จะไม่เก่งภาษาอังกฤษ น้อง ๆ ก็สามารถเรียนที่ ABAC ได้แบบชิลล์ๆ ไม่ว่าตอนนี้จะอยู่ในสถานการณ์การณ์แบบไหนก็ตาม จะกำลังเตรียมตัวสอบเข้า ABAC แต่ไม่อยากเรียน Intensive Course หรือบางคนสอบติดแล้วแต่เรียนวิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยไม่ไหว รู้สึกว่ายากมาก ๆ ไม่มีความสุขในการเรียน กว่าจะผ่านไปได้แต่ละตัวไม่ใช่เรื่องง่าย หรือแม้แต่คนที่เรียนมาจนถึง English 3 แต่ติดที่ English 4 ไม่ผ่านซักที ถ้าไม่ผ่านตัวนี้ก็จบไม่ได้ กังวลสุด ๆ ไหนจะความเครียด ความกดดันที่ตามมาอีกมากมาย จุฬาติวเตอร์เรารับรู้ถึงความรู้สึกนี้ดีค่ะ เราจึงมีตัวช่วยมากมายที่พร้อมจะทำให้เป้าหมายเป็นสิ่งที่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปค่ะ
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันสั้น ๆ ว่า ABAC (เอแบค) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงในลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นที่แรก ๆของประเทศไทยเลยค่ะที่ผลักดันให้ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน จึงทำให้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นในด้านความเป็นนานาชาติ และมีความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศเยอะแยะมากมายหลายประเทศ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนต่อปริญญาตรีที่ไหนดี ABAC เองก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการศึกษาต่อค่ะ
ซึ่งการเตรียมตัวสมัครเรียนที่ ABAC ก็ไม่ยากมากค่ะ เพียงแค่น้อง ๆ มีเกรดเฉลี่ยของโรงเรียนไม่ต่ำกว่า 2.5 ก็สามารถไปติดต่อสมัครเรียนได้เลยค่ะ แต่หากมีเพียงแค่เกรดไปอย่างเดียว น้อง ๆจะต้องสอบข้อสอบของมหาวิทยาลัยและต้องเรียน Intensive Course ก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมทักษะทางภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ และวิชาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับแต่ละสาขาวิชาที่น้อง ๆสมัครเรียน หลังจากจบหลักสูตรแบบเข้มหรือ Intensive Course ดังกล่าวแล้ว ก็จะเข้าสู่การสอบวัดผลและนำผลที่ได้ไปจัดวิชาเรียนในภาคการศึกษาแรกต่อไปค่ะ ซึ่งค่อนข้างเหนื่อยมากค่ะ แต่หากน้อง ๆ มีคะแนน TOEFL ตั้งแต่ 60 (iBT) หรือ 500 (pBT) คะแนนขึ้นไป หรือ ผลคะแนน IELTS ABAC ตั้งแต่ 5.0 ขึ้นไป คราวนี้จะง่ายมากขึ้นแล้วค่ะเพราะจะได้รับการยกเว้นการเรียนหลักสูตร Intensive Course วิชาภาษาอังกฤษ และหากมีคะแนน SAT MATH 500 ขึ้นไป จะได้เรียน Intensive Course วิชาคณิตศาสตร์เพียงแค่ 15 ชั่วโมง จากปกติที่อาจจะต้องเรียนมากถึง 30-60 ชั่วโมง ใครที่มีคะแนนเหล่านี้ก็สามารถนำใบคะแนนต้นฉบับและสำเนาไปติดต่อเจ้าหน้าที่ในวันยื่นใบสมัครเรียนได้เลยค่ะ
นอกจากนี้คะแนน IELTS ABAC หรือ TOEFL ยังสามารถใช้ยกเว้นการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยได้อีกด้วยค่ะ เนื่องจากปกติแล้วถ้าหากไม่มีคะแนนดังกล่าวเลย น้อง ๆ จะต้องลงเรียนวิชาภาษาอังกฤษและสอบให้ผ่านทั้งหมด 4 รายวิชา ได้แก่ English I, II, III และ IV ความยากก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับค่ะ ซึ่งการยื่นคะแนน IELTS ABAC หรือ TOEFL จะช่วยให้เราได้รับการยกเว้นการเรียนในรายวิชานั้น ๆ ได้ แต่จะได้ในรายวิชาใดบ้างก็ต้องขึ้นอยู่กับระดับคะแนนที่เรามี ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ IELTS 6.5 คะแนน, TOEFL (iBT) 90 คะแนน หรือ TOEFL (pBT) 575 คะแนน เราสามารถเลือกได้ระหว่าง
- ข้ามไปรับเกรด A ในรายวิชา English III ได้เลย หรือ
- ข้ามไปรับเกรด C ในรายวิชา English IV ได้เลย
ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุดที่จะไม่ส่งผลให้เกรดเฉลี่ยรวมต่ำเกินไป แนะนำให้เป็นการเลือกเกรด A ในรายวิชา English III มากกว่า แล้วสอบอัพคะแนน IELTS ABAC ใหม่อีกครั้งให้ได้ 7.0 คะแนน หรือ TOEFL (iBT) 100 คะแนน หรือ TOEFL (pBT) 600 คะแนน เพราะระดับคะแนนดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถข้ามขั้นไปรับเกรด A ในรายวิชา English IV ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษรายวิชาสุดท้ายที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดไปได้ค่ะ
เห็นได้ชัดเจนเลยนะคะว่าการที่เรามีคะแนน IELTS ABAC หรือ TOEFL ติดตัวไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนจะช่วยให้ประหยัดเวลาการเรียนลงไปได้เยอะ สามารถนำเวลาที่เหลือไปลงเรียนอย่างอื่นๆหรือทำกิจกรรมอื่นได้มากขึ้นค่ะ และบอกได้เลยว่าการเก็บคะแนนไปยื่นนั้นง่ายกว่ามากค่ะเพราะเราสามารถสอบได้มากกว่าหนึ่งรอบ แก้ตัวรอบหน้าได้ภายในระยะเวลาที่ไม่ห่างกันมาก และมีรอบสอบให้เลือกหลากหลายรอบค่ะ
สำหรับใครที่สอบติดเป็นนักศึกษาของ ABAC อยู่แล้ว และอาจจะกำลังเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน English I – IV อยู่ หลายคนพยายามสอบเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านซักที การเลือกที่จะสอบ IELTS ABAC หรือ TOEFL ABAC ให้ได้ระดับคะแนนตามที่คณะกำหนด เป็นทางเลือกที่อยากแนะนำมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะคนที่กำลังเรียน English IV ซึ่งเป็นวิชาสุดท้าย สอบแล้วสอบอีกก็ยังไม่ผ่าน หรืออาจจะไม่ค่อยมั่นใจกับการสอบเท่าไหร่ บอกเลยว่าต้องใช้แนวทางการยื่นคะแนน IELTS ABAC หรือ TOEFL เข้าช่วยค่ะ เพราะสอบได้หลายรอบมากกว่า แนวข้อสอบก็เก็งได้ง่ายกว่าด้วยค่ะ
ที่จุฬาติวเตอร์ เราทราบดีว่าสำหรับน้อง ๆ ที่เรียน ABAC หลายต่อหลายคนที่มีความกังวลกับการเรียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังจะสมัครเรียนแล้วกลัวการเรียนภาษาอังกฤษทั้ง Intensive Course และภาษาอังกฤษในหลักสูตรปกติ หรือคนที่เรียนอยู่แล้วทั้ง English I, II, III, IV แต่เรียนไม่ไหว รวมไปถึงคนที่จะจบ แต่ติดแค่ English ตัวสุดท้ายอย่าง English IV ต้องแบกรับความเครียดและความกดดัน เรียนก็เหนื่อย ยาก ท้อ ไม่มีกำลังใจเรียน ลืมปัญหาเหล่านี้ไปได้เลยค่ะ เพราะที่จุฬาติวเตอร์เรามีคอร์สเรียน ที่สามารถช่วยให้น้อง ๆเก่งภาษาอังกฤษได้แม้เหลือเวลาในการเตรียมตัวไม่มาก สำหรับใครที่อยากเตรียมตัวสอบแล้วกำลังเลือกระหว่างสอบ IELTS ABAC หรือ TOEFL ดี จุฬาติวเตอร์ขอแนะนำให้น้อง ๆ เลือกสอบ IELTS ค่ะ เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ข้อสอบ IELTS นั้นโดยรวมจะง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน ระดับของคำศัพท์ไม่ยากมาก และที่สำคัญการเลือกสอบ IELTS ABAC สามารถสอบที่มหาวิทยาลัยได้โดยตรง สะดวกมาก ๆ ค่ะ
แต่ก่อนจะลงสนามสอบ อย่าลืมเตรียมความพร้อมกันก่อนนะคะ ด้วยคอร์สเรียน IELTS ABAC รับรองผล สอนสดทุกพาร์ท คุ้มสุด ๆเพราะน้อง ๆ จะได้เรียนครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ลักษณะคอร์สเรียนเน้นไปที่การเจาะลึกแนวข้อสอบ แต่ไม่ลืมที่จะปูพื้นฐานให้น้อง ๆ แน่นอนค่ะ นั่นหมายความว่า แม้พื้นฐานจะอ่อน ไม่แม่น Grammar ก็สามารถเรียนได้สบาย ๆ และที่สำคัญคือ คอร์สเรียนกลุ่มเล็ก สามารถดูแลและพัฒนาผู้เรียนได้อย่างทั่วถึง สงสัยตรงไหน ไม่เข้าใจเนื้อหาเรื่องอะไร สามารถสอบถามติวเตอร์ได้โดยตรง พิเศษสุด ๆ ด้วยวิดีโอเฉลยแบบฝึกหัด ที่ให้กันแบบฟรี ๆ นอกจากจะได้เรียนเนื้อหาต่าง ๆอย่างครบถ้วนในคอร์สสอนสดได้แบบเต็มๆแล้ว ยังสามารถใช้วิดีโอในการทบทวนบทเรียนได้อีกด้วย คอร์สเรียนคุ้มค่าขนาดนี้พลาดไม่ได้แล้วนะคะ ด้วยการออกแบบหลักสูตรมาภายใต้แนวคิด easy to be expert น้อง ๆ จึงมั่นใจได้เลยค่ะว่า ในคอร์สเรียนนั้นจะเต็มไปด้วยเทคนิคการทำข้อสอบที่จะช่วยให้เราพิชิตคะแนนสอบได้อย่างง่ายดาย
ABAC | FAQ
ปแบบการเรียนการสอน ABAC เป็นอย่างไร ?
รูปแบบการเรียนการสอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตรและสถานที่เรียน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นวิทยาเขตหัวหมาก และวิทยาเขตบางนา สำหรับหลักสูตรทั่วไปจะใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหลักสูตรประมาณ 1.5 – 3 ปี ส่วนหลักสูตรแบบเรียนร่วมและหลักสูตร 2 ปริญญากับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ผู้เรียนจะต้องเรียนที่เอแบคก่อน 1 ปีและต่างประเทศอีก 1 ปี จึงจะจบหลักสูตร ตารางเรียนจะมีทั้งวันธรรมดาและวันเสาร์อาทิตย์ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเหมาะสมในแต่ละภาคการศึกษา
ค่าเทอม ABAC เท่าไหร่ ?
อัตราค่าธรรมเนียมตลอดการศึกษา จะแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร ซึ่งจะมีทั้งแบบการเรียนที่ไทยอย่างเดียวตลอดหลักสูตร และการเรียนแบบ Joint Programs and Double Degree กับมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ โดยเฉลี่ยแล้วค่าธรรมเนียมการศึกษาจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท – 1,787,500 บาท
ABAC เปิดรับสมัครช่วงไหน ?
ระยะเวลาในการเปิดรับสมัครประมาณ 5 ครั้ง/ปี คือ เดือนธันวาคม, เมษายน, พฤษภาคม, สิงหาคม และตุลาคม โดยสามารถอัพเดทตารางได้จากประกาศทางหน้าเว็บไซต์ในของแต่ละหลักสูตรที่ทางผู้สมัครสนใจเพิ่มเติม http://www.grad.au.edu/program-schedule
