IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นอีกรูปแบบการสอบที่ได้รับความนิยมมากในเมืองไทยรวมถึงหลายประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ใครที่กำลังวางแผนสอบ IELTS จึงมีสิ่งที่ควรรู้แบบเจาะลึกเพื่อให้ตนเองสามารถเตรียมตัวอย่างมั่นใจ รวมถึงยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำข้อสอบเพื่อคะแนนสูงตามเป้าหมายได้อีกด้วย จะมีเรื่องไหนบ้าง มาดูพร้อม ๆ กันเลย
การสอบ IELTS คืออะไร?
การสอบ IELTS คือ รูปแบบการทดสอบความรู้ ทักษะ ในด้านภาษาอังกฤษสำหรับบุคคลในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ ได้รับความนิยมและผ่านการยอมรับจากหลายองค์กรทั่วโลกรวมแล้วกว่า 10,000 แห่ง จากกว่า 140 ประเทศ ทั้งสถานศึกษา หน่วยงานเอกชน หน่วยงานราชการ ดังนั้นคะแนน IELTS จึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย
ทำไมต้องสอบ IELTS?
อย่างที่อธิบายไปว่า IELTS คือ ข้อสอบที่ใช้ประเมินทักษะในด้านภาษาอังกฤษ ดังนั้นคนที่ตั้งใจสอบทุกคนจึงมีเป้าหมายสำคัญในการนำคะแนนที่ได้ไปใช้สมัครเรียนต่อ สมัครเข้าทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ใครที่ทำคะแนนสอบ IELTS ได้ดี ก็หมายถึงโอกาสที่ตนเองจะได้เติบโตทั้งการได้เรียนในสถาบันต่างประเทศ สถาบันชั้นนำของเมืองไทย การสมัครงานกับบริษัทข้ามชาติ สมัครงานบริษัทชื่อดัง ไปจนถึงการเลื่อนตำแหน่ง ปรับเงินเดือน หรือได้รับเงินพิเศษจากองค์กร
ข้อสอบ IELTS มีเรื่องอะไรบ้าง?
สอบ IELTS จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ IELTS General Training และ IELTS Academic ซึ่งความเข้มข้นของการสอบจะแตกต่างออกไป ทว่าเนื้อหาพื้นฐานในการสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ทักษะ เหมือนกัน นั่นคือ การฟัง (Listening), การพูด (Speaking), การอ่าน (Reading), และการเขียน (Writing) การสอบนี้จึงสามารถประเมินทักษะทางภาษาอังกฤษ ของผู้เข้าสอบทุกคนได้แบบรอบด้าน
อย่างไรก็ตามนอกจากการสอบ IELTS ที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีรูปแบบที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ อย่าง IELTS Regular, IELTS UKVI, IELTS Paper, IELTS Computer จนนำมาซึ่งข้อสงสัยว่าสรุปแล้วการสอบนี้มีความแตกต่างกันตรงไหน นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องเจาะลึกรายละเอียดการสอบให้ครบถ้วน
สอบ IELTS แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?
1. IELTS Academic
เป็นรูปแบบการสอบ IELTS เพื่อใช้ปคะแนนไปสมัครเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท เอก ทั้งมหาวิทยาลัยต่างประเทศ
2. IELTS General Training
โดยผลสอบ IELTS เพื่อใช้ประเมินทักษะ วัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับชีวิตประจำวันทั่วไป และใช้คะแนนการสมัครงานทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
3. IELTS UKVI
อีกรูปแบบการสอบ IELTS ที่หลายคนได้ยินกันบ่อยมาก ต้องอธิบายว่าการสอบนี้มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อยื่นสมัครวีซ่าของสหราชอาณาจักร (UK) และใช้ในด่านตรวจคนเข้าเมืองสำหรับคนที่ต้องการไปศึกษาต่อใน UK หรือคนย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศดังกล่าว มีทั้งการสอบ IELTS Academic และ IELTS General Training
4. IELTS Regular
หมายถึง รูปแบบการสอบ IELTS ไม่ว่าจะเป็นสอบ IELTS Academic และ General Training แบบทั่ว ๆ ไป คะแนนสอบสามารถนำไปใช้งานได้ตามเป้าหมายทั้งสมัครเรียน สมัครงาน ย้ายถิ่นฐาน กับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหลายประเทศในยุโรป
5. IELTS Life Skills
อีกรูปแบบการสอบ IELTS ที่หลายคนคงพอคุ้นชื่ออยู่บ้าง มีจุดประสงค์เพื่อประเมินทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการฟัง แบ่งออกเป็น
IELTS Life Skills ระดับ A1 สำหรับการยื่นขอวีซ่าเข้า UK และด่านตรวจคนเข้าเมืองในการย้ายถิ่นฐานถาวร
IELTS Life Skills ระดับ B1 สำหรับการยื่นขอวีซ่าเข้า UK และด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อสมัครขอวีซ่าพลเมืองแห่ง UK
จากทุกประเภทการสอบ IELTS จะเห็นว่าหลัก ๆ แล้วผู้สอบต้องรู้เป้าหมายของตนเองก่อนว่าคะแนนนั้นถูกนำไปใช้ในเรื่องใด จากนั้นจึงสามารถเลือกประเภทได้อย่างเหมาะสม เหมาะกับตนเอง และที่สำคัญยังมีส่วนในเรื่องการหาคอร์สเรียน IELTS หรือติว IELTS ด้วย
คอร์ส IELTS สอนสด รับรองผล กลุ่มเล็ก ไม่เกิน 10 คน
รหัสคอร์ส | วันเรียน | รอบ | เวลา | หมายเหตุ | เหลือที่นั่ง | อาจารย์ |
IBB0924 | 5 ต.ค. - 3 พ.ย. | ส-อา | 10:00-16:00 | [เต็มแล้ว] |
-4 | ฟิวส์,vova |
IBA1124 | 4 พ.ย. - 5 ธ.ค. | จ-พฤ | 18:00-20:30 | จองที่นั่ง
|
2 | ฟิวส์,vova |
IBB1124 | 9 พ.ย. - 8 ธ.ค. | ส-อา | 10:00-16:00 | จองที่นั่ง
|
2 | ฟิวส์,vova |
IBA1224 | 14 ธ.ค. - 19 ม.ค. | ส-อา | 10:00-16:00 | จองที่นั่ง
|
9 | vova,ฟิวส์ |
IBB1224 | 16 ธ.ค. - 23 ม.ค. | จ-พฤ | 18:00-20:30 | จองที่นั่ง
|
8 | vova,ฟิวส์ |
เรียน IELTS
เรียน IELTS สอนสด กลุ่มเล็ก รับรองผล รับรองผล สอนครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน คอร์สสอนเริ่มต้นตั้งแต่ Grammar ถึง แนวข้อสอบรอบล่าสุด
เรียน IELTS กับครูต่างชาติ เหมือนเรียน ที่อังกฤษ
ติว IELTS Part Reading and IELTS Writing สอนโดยอาจารย์คนไทยที่เชี่ยวชาญข้อสอบโดยตรง
เนื้อหาหลักสูตรคอร์สติว IELTS ที่เข้มข้น สอนครบ 4 ทักษะ IELTS Listening and IELTS Speaking เรียนกับอาจารย์ชาวต่างชาติ ที่จะช่วยในการปรับสำเนียงในการพูด และสามารถความคุ้นเคยให้กับผู้เรียน
คอร์สเรียน IELTS
คอร์ส เรียน IELTS รูปแบบ Hybrid Learning ที่พูดเรียนสามารถเลือกรูปแบบเรียนได้ ว่าจะเรียนสดที่สถาบัน หรือ จะเรียนสดออนไลน์ผ่านทาง Zoom ( IELTS ออนไลน์) หรือ จะสามารถเรียนคละกันก็ได้ ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ของเรียน
รูปแบบการสอบ IELTS ที่ใช้ในปัจจุบัน
ปัจจุบันการสอบ IELTS จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ สอบ IELTS Paper-Based Test และ สอบ IELTS Computer-Delivered Test โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. การสอบ IELTS Paper-Based Test
เป็นการสอบ IELTS ด้วยกระดาษคำตอบ เหมาะกับคนที่ถนัดเขียน หรือนิยมใช้การเขียนตอบเป็นหลัก
2. การสอบ IELTS Computer-Delivered Test
เป็นการสอบ IELTS ด้วยคอมพิวเตอร์ เหมาะกับคนที่ถนัดพิมพ์คำตอบ หรือนิยมใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า
ค่าสมัครสอบ IELTS กี่บาท?
– IELTS Academic 7,350 THB
– IELTS General Training 7,100 บาท
– ค่าสอบ IELTS UKVI 7,710 บาท
ค่าสอบ IELTS แพงไหม?
หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าค่าสอบ IELTS แพงไหม? ก็ต้องอธิบายกันแบบตรง ๆ ว่าในบางมุมเป็นการสอบที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก สมมุติถ้าสอบ IELTS Regular 3 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายเกิน 20,000 บาท เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามต้องประเมินถึงความคุ้มค่าในการสมัครสอบด้วย หากคุณสอบผ่านได้คะแนนเหมาะสมก็เสมือนเป็นใบเบิกทางชั้นดีที่ต่อยอดความสำเร็จในอนาคตได้อีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการย้ายถิ่นฐานก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ก่อนตัดสินใจสมัครจึงต้องถามความพร้อมของตนเอง เป้าหมายที่ชัดเจน ลองหาคอร์สเรียน IELTS เพื่อช่วยให้สมัครแค่ครั้งเดียวแล้วสอบผ่านได้คะแนนตามที่ต้องการเลย
คะแนนสอบ IELTS แบ่งยังไง อยู่ได้กี่ปี
คะแนนสอบ IELTS เรียกกันว่า Band (แบนด์) มีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่สอบ โดยทุกทักษะที่สอบไม่ว่าจะเป็น Writing, Reading, Listening, Speaking มีการแบ่ง Band ตั้งแต่ 1.0 ไปจนถึง 9.0 เมื่อคะแนนออกมาครบทั้ง 4 ทักษะก็จะถูกคำนวณเป็นคะแนนรวม หรือคะแนนเฉลี่ยเรียกว่า Overall Band Score
วิธีคำนวณ Overall Band Score คือ นำคะแนนทั้ง 4 พาร์ทบวกกัน หาร 4 และเมื่อผลออกมามีเศษก็จะปัดขึ้น-ปัดลงตามเกณฑ์หลักคณิตศาสตร์พื้นฐาน เช่น 7.25 จะถูกปัดขึ้นเป็น 7.5 แต่ถ้า 7.14 จะถูกปัดลงเป็น 7.0
ข้อสอบ IELTS Academic
ถือเป็นการสอบ IELTS ที่มีระดับความยากมากที่สุด เนื้อหาส่วนใหญ่ทุกพาร์ทจะเน้นความเป็นวิชาการ ข้อมูล และรายละเอียดแบบเจาะลึก ดังนั้นการทำความเข้าใจข้อสอบเบื้องต้นจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับทุกคนได้มากขึ้น ไม่ว่าเคยเรียน IELTS มาก่อนหรือไม่ก็ตาม
ข้อสอบ IELTS Academic Listening 40 ข้อ 30 นาที แบ่งเป็น 4 ส่วน
– การสนทนาพูดคุยระหว่าง 2 คน เกี่ยวกับชีวิตทั่วไป
– บทพูด 1 คน เรื่องทั่วไป เช่น แนะนำโรงเรียนแห่งใหม่
– การสนทนาสูงสุด 4 คน มักเกี่ยวกับการฝึกอบรม การศึกษา เช่น การพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหารายงานที่อาจารย์สั่ง
– บทพูด 1 คน เนื้อหามักเป็นเชิงวิชาการ เช่น การจดข้อมูลติวเตอร์
ทั้งนี้ลักษณะคำถามของ IELTS Academic Listening สามารถสรุปให้เห็นภาพได้ชัดเจนทั้งสิ้น 5 แบบ ประกอบไปด้วย
1.1 Completing Information / Labelling – การเติมข้อมูล ประโยค ลงในรูปภาพ อาจเป็นภาพต่าง ๆ เช่น แผนที่อาคาร ไดอะแกรมโครงสร้างเครื่องจักร แผนที่เมือง แบบฟอร์มการเข้าพักโรงแรม โน้ตสรุปเนื้อหาจากวิทยากร ตารางข้อมูลต่าง ๆ โฟลว์ชาร์ตขั้นตอน เป็นต้น
1.2 Multiple-Choice – ตัวเลือกแบบหลายคำตอบ มีทั้งเลือก 1 ใน 3 คำตอบ และ 2 ใน 5 คำตอบ ขึ้นอยู่กับคำถาม
1.3 Matching – การจับคู่ระหว่างข้อมูลให้ตรงกัน เช่น หัวข้อกับเนื้อหา ชื่อคนกับความคิดเห็น หน้าที่กับตำแหน่งพนักงาน ฯลฯ
1.4 Sentence Completion – การเติมคำในประโยคให้ใจความสมบูรณ์ อ้างอิงจากเนื้อหาที่ฟัง
1.5 Short-Answer Question – ตอบคำถามสั้น ๆ ส่วนใหญ่ไม่เกิน 3 ข้อ และมีตัวเลข มักถามเรื่องข้อมูลต่าง ๆ
ข้อสอบ IELTS Academic Reading 40 ข้อ 60 นาที
เนื้อหาจะมีความหลากหลายบทความให้ได้อ่าน เช่น ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ท่องเที่ยว ธรรมชาติ เศรษฐกิจ เพื่อให้เข้าใจจุดประสงค์เนื้อหา ความคิดเห็นผู้เขียน ความรู้สึกผู้เขียน หรือข้อมูลที่ถูกต้อง แบ่งได้ 5 รูปแบบคำถามที่ต้องเจอ ได้แก่
2.1 Fill-in – เติมคำในช่องว่าง ในตาราง ซึ่งเนื้อหาอาจแบ่งย่อยออกได้ทั้ง Note, Table, Summary, Flow-Chart, Diagram เป็นต้น
2.3 Multiple-Choice – คำถามแบบหลายคำตอบ มีเลือกทั้ง 1 ใน 4 คำตอบ 2 ใน 5 คำตอบ และ 3 ใน 7 คำตอบ
2.4 True / False / Not Given หรือ Yes / No / Not Given – เป็นโจทย์ลักษณะประโยคแล้วเลือกว่าคำตอบไหนจริง ไม่จริง ไม่มีระบุไว้ ต้องอ้างอิงจากเนื้อหาที่อ่านมา
2.5 Matching – จับคู่ข้อมูลในพารากราฟกับหัวข้อ ชื่อคนกับผลงาน จับคู่ประโยคกับเนื้อหาให้ใจความสมบูรณ์
2.6 Sentence Completion – เติมคำในประโยคให้มีใจความสมบูรณ์ ต้องอ่านด้วยว่าให้เติมกี่คำ เช่น ‘NO MORE THAN THREE WORDS AND/OR A NUMBER from the passage’ ‘ONE WORD ONLY’ or ‘NO MORE THAN TWO WORDS’
ข้อสอบ IELTS Academic Writing 2 ส่วน 60 นาที
3.1 ข้อสอบ IELTS Writing Task 1 (150 words) – เป็นการเขียนบรรยายกราฟ ชาร์ต ไดอะแกรมต่าง ๆ เห็นข้อมูลอะไรเขียนลงไปได้เลย เช่น การทำงานของระบบ การหาไอเดียหลัก ภาพรวมของสิ่งที่เห็น ฯลฯ ควรใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที
3.2 ข้อสอบ IELTS Writing Task 2 (250 words) – เน้นการเขียนแบบตอบคำถาม Answer Questions โจทย์บอกหัวข้อมาให้ผู้สอบต้องแสดงความคิดเห็นในหลายรูปแบบทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย อธิบายแบบ 2 มุมมอง แสดงความคิดเห็น แก้ไขปัญหา ควรเผื่อเวลาทำประมาณ 40 นาที
ข้อสอบ IELTS Academic Speaking ไม่เกิน 15 นาที
4.1 Introduction and interview พาร์ทการแนะนำตัวเอง และสอบถามเรื่องทั่วไป เช่น ครอบครัว การศึกษา ที่ทำงาน สิ่งที่ชอบ ฯลฯ ใช้เวลา 4-5 นาที
4.2 Long Turn มีการ์ดคำถามซึ่งกำหนดหัวข้อไว้แล้ว ผู้สอบเตรียมตัวได้ 1 นาที จากนั้นจึงพูดคุยเรื่องดังกล่าวอีกประมาณ 2 นาที
4.3 Discuss กรรมการจะถามเพิ่มเติมอื่น ๆ จากหัวข้อในการ์ด มักเป็นคำถามที่บ่งบอกถึงการแสดงความคิดเห็น ทดสอบไอเดีย หรือเปรียบเทียบในเชิงนามธรรมมากขึ้น ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที
ข้อสอบ IELTS General Training
เป็นข้อสอบที่มีระดับปานกลาง เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ประเมินทักษะความรู้ด้านภาษาอังกฤษเบื้องต้น จึงเหมาะกับคนที่ต้องการคะแนนสอบ IELTS ไปใช้เพื่อสมัครงาน หรือขอย้ายที่อยู่อาศัย ยิ่งใครได้เรียน IELTS จะช่วยให้ทำคะแนนได้ดีขึ้นเยอะมาก สามารถแบ่งการสอบออกเป็น 4 พาร์ท ดังนี้