การเติม s/es ที่คำกริยา การเติม –ing ที่คำกริยา

Reading Time: < 1 minute

คำกริยาในภาษาอังกฤษ (Verbs) คือ คำที่ใช้แสดงการกระทำของประธาน โดยเมื่อใช้กับประธานเอกพจน์ (ยกเว้น I, You) จะต้องเติม s/es และเมื่อต้องการพูดว่ากำลังทำการกระทำนั้น ๆ ใน Present Continuous Tense คำกริยาก็จะเติม –ing โดยการเติม s/es รวมถึง –ing มีดังนี้

หลักการเติม s/es ที่คำกริยา

1. คำกริยาปกติทั่วไป สามารถเติม s ได้เลย เช่น

work → works

come → comes

live → lives

drink → drinks

eat → eats

run → runs

write → writes

2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย o, s, ch, x, z ให้เติม es เช่น

do → does

go → goes

kiss → kisses

pass → passes

catch → catches

teach → teaches

fix → fixes

buzz → buzzes

3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y จะมี 2 กรณี คือ

3.1 กรณีที่หน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

cry → cries

dry → dries

fly → flies

study → studies

try → tries

3.2 กรณีที่หน้า y เป็นสระ a, e, i, o, u ให้เติม s ได้เลย เช่น

play → plays

buy → buys

joy → joys

pay → pays

ข้อสังเกตุ ข้อแตกต่างระหว่างคำนามกับกริยา คือ คำนาม จะเติม s, es ก็ต่อเมื่อ คำนามนั้นเป็นพหูจน์ แต่สำหรับคำกริยา เราจะเติม s, es ก็ต่อเมื่อ ประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ เช่น he, she, it

หลักการเติม –ing ที่คำกริยา

1. คำกริยาทั่วไปเติม –ing ได้เลย เช่น

send → sending

buy → buying

cry → crying

eat → eating

go → going

wait → waiting

2. คำกริยาที่มีตัวสระตัวเดียว และตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วเติม –ing เช่น

get → getting

sit → sitting

stop → stopping

swim → swimming

3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้ตัด e ทิ้ง แล้วเติม –ing เช่น

give → giving

come → coming

drive → driving

move → moving

smoke → smoking

write → writing

4. คำกริยที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม –ing เช่น

die → dying

lie → lying

5. คำกริยา 2 พยางค์ มี 2 กรณี คือ

5.1 ถ้าเน้นเสียงหนักที่พยางค์หลังให้เพิ่มตัวสะกดอีกหนึ่งตัว แล้วเติม –ing เช่น

admit → admitting

defer → deferring

3.2 ถ้าเน้นเสียงหนักที่พยางค์หน้า ให้เติม –ing ได้เลย เช่น

suffer → suffering

offer → offering

edit → editing

Related Posts