สอบเทียบ GED เหมาะกับใคร สรุปแล้วน้อง ๆ ควรสอบดีหรือไม่
การสอบ GED คือ วิธีสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้น ม.ปลาย สำหรับคนที่ต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องสอบเข้า รวมถึงยังสามารถเริ่มสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี นั่นหมายถึง น้อง ๆ คนไหนที่เรียนชั้น ม.ต้น แล้วผู้ปกครองมองเห็นถึงทักษะ ความรู้ที่พวกเขามี จะให้ลองสอบเทียบ GED เพื่อความรวดเร็วในการเรียนต่อเลยก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามลองมาพิจารณากันว่าสรุปแล้วการสอบนี้เหมาะกับใคร แล้วถ้าเป็นตัวเราควรสอบหรือไม่ วางแผนยังไงดี
สอบเทียบ GED เหมาะกับใครบ้าง
อย่างที่อธิบายเอาไว้ในตอนต้นว่าการสอบเทียบ GED เป็นการสอบเพื่อเอาวุฒิในระดับ ม.ปลาย โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนอีก 2-3 ปี ให้ยุ่งยาก เสียเงิน เสียเวลา ช่วยให้การเรียนจบรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม สามารถหางานทำ หรือเรียนต่อในระดับสูงขึ้นตามที่ตนเองต้องการได้เลย ทั้งนี้เมื่อสรุปแล้วแม้จะบอกว่าคนทุกคนมีโอกาสสอบ GED ได้ แต่ลองเอาหลักการนี้ไปพิจารณาว่าคุณควรสอบหรือไม่
คุณสมบัติ สมัครสอบ GED
ผู้สมัครสอบ GED ต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป สำหรับกรณีที่น้อง อายุยังไม่ถึง 18 ปี แต่อยู่ในช่วงอายุ 16 -17 ปี สามารถสมัครสอบ ได้โดยให้ผู้ปกครองทำหนังสือแสดงความยินยอม ( Parental Consent Form)แล้วส่งเมล์ไปที่ GED Official เผื่อให้ทางศูนย์สอบปลกล็อครายชื่อ ให้สิทธิ์เข้าสอบ ให้แก่น้องๆ
ค่าใช้จ่ายในการสอบ GED
ค่าธรรมเนียมในการสอบ GED แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
– ค่าสอบ Ready 6.99 USD / วิชา (ประมาณ 240 บาท ต่อวิชา)
– ค่าสอบ ต่อ วิชา (ประมาณ 2,700 บาท ต่อวิชา)
– ค่าใบ Diploma และ Transcript 15 USD / ใบ (ประมาณ 500 บาท ต่อใบ) โดยแบบการจัดส่งจะจัดส่งแบบเร่งด่วน (FEDEX) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ตารางสอบ และ ศูนย์สอบ GED Test
ตารางสอบ GED มีสอบทุกวันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 16:00 น.
การเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการสอบ GED
การเลื่อนวันและเวลาสอบ สามารถทำได้ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนวันสอบ
การยกเลิกการสอบ ต้องแจ้งยกเลิกภายใน 24 ชั่วโมง โดยเงินค่าสมัครสอบจะได้คืนผ่านทางช่องทางบัตรเครดิต
คอร์ส ติวสอบ GED Classes รับรองผล จบ ภายใน 1 เดือน
| วันเรียน | รอบ | เวลา | หมายเหตุ | เหลือที่นั่ง |
| 7 ต.ค. - 8 พ.ย. | จ-ศ | 13:00-16:00 | จองที่นั่ง
|
3 |
| 21 ต.ค. - 22 พ.ย. | จ-ศ | 13:00-16:00 | จองที่นั่ง
|
2 |
ติวสอบ GED รับรองผล สอนครบทุกวิชา ไม่ว่าน้องๆจะอ่อนเลข ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ไม่ถนัดท่องจำประวัติศาสตร์ หรือไม่เคยเรียนสายวิทย์มาก่อน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ความมั่นใจจะถูกเรียกคืนกลับมา ด้วย คอร์ส เตรียมสอบที่จะนำ ข้อสอบรอบล่าสุดมา ติว
พิจารณาอย่างไรว่าควรสอบเทียบ GED ดีหรือไม่
1. ทักษะความรู้ของตนเองทั้งด้านภาษาและอื่น ๆ
การสอบเทียบ GED เป็นการสอบที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษล้วน ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรต้องพิจารณาตนเองนั่นคือมีความเก่งในเรื่องภาษามากน้อยแค่ไหน หากขาดทักษะ หรือมีน้อยมากบางทีอาจเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะสอบให้ได้คะแนนตามเป้าหมาย แต่ถ้ารู้ว่าตนเองมีทักษะอังกฤษดีเยี่ยม ก็มาดูที่เรื่องเนื้อหาในการสอบ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 วิชา คือ Reasoning Through Language Arts (ภาษาอังกฤษ), Science (วิทยาศาสตร์), Social Studies (สังคมศาสตร์), Mathematical Reasoning (คณิตศาสตร์) เจาะลึกกันแบบเน้น ๆ วิชาไหนเน้นเรื่องใดเป็นหลัก เมื่อมีทักษะดีพร้อมทุกอย่างคราวนี้ก็สอบกันเลย โอกาสสอบผ่านมีอยู่จริงแน่
2. เป้าหมายในอนาคตของตนเองเป็นยังไงบ้าง
สิ่งต่อมาที่อยากให้พิจารณาสำหรับคนที่ยังลังเลว่าควรสอบเทียบดีหรือไม่ ลองวางแผนเป้าหมายของตนเองให้ดีว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือพ่อแม่ผู้ปกครองจะช่วยในเรื่องนี้ก็ไม่ผิด เช่น บางคนต้องการเรียนให้จบภายในเวลาเร็วขึ้นเพื่อจะได้เรียนต่อระดับสูง เช่น ปริญญาโท, ปริญญาเอก แล้วจบด้วยอายุน้อย มีโอกาสเจอกับการทำงานที่ดี เป็นต้น หากมีแผนและเป้าหมายชัดเจนจะช่วยให้คุณอยากสอบและเตรียมตนเองดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าแน่
3. ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้สำหรับการสอบ
อีกเรื่องที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ควรประเมินเบื้องต้นเอาไว้ด้วย นั่นคือ ค่าใช้จ่ายในการสอบเทียบ GED แม้บอกว่ารวม ๆ แล้วอยู่ราว 10,000 กว่าบาท แต่ต้องไม่ลืมในเรื่องของการสอบใหม่ในกรณีไม่ผ่าน หรือ Retest ตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกรอบ แม้บางคนอาจบอกว่าคุ้มกว่าการเรียน ม.ปลาย แต่ถ้าต้องจ่ายอยู่ตลอดเพราะสอบไม่ผ่านคงแทบไม่ต่างจากการเรียนปกติเท่าใดนัก
เมื่อมีข้อมูลแบบนี้แล้วก็ลองนำไปคิดทบทวนกันอีกสักนิดว่าสรุปแล้วควรเลือกสอบเทียบ GED ดีหรือไม่ หากมั่นใจว่าตนเองทำได้ และมีเป้าหมายในอนาคตชัดเจน ไม่ติดขัดใด ๆ เรื่องเงินก็จัดไปเลย
