DET คืออะไร

DET
Reading Time: < 1 minute

DET คืออะไร

DET คือ การสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ ย่อมากจาก Duolingo English Test ซึ่งจะเป็นข้อสอบแบบ Computer Adaptive Test นั่นคือ ข้อสอบจะปรับความยากง่ายไปตามความสามารถของคนสอบ ประกอบไปด้วย 4 ทักษะ ได้แก่ Reading (การเขียน), Listening (การฟัง), Writing (การเขียน), และ Speaking (การพูด) ทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ และมีค่าสมัครสอบเพียง 1,600 บาท/ครั้ง

 

DET มีข้อดี ข้อเสีย ยังไงบ้าง

ข้อสอบ DET นั้นมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดบางอย่าง ดังนี้

ข้อดี DET ข้อจำกัด DET
DET เป็นการสอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และสภาพแวดล้อมที่เงียบ เนื่องจากเป็นการทำข้อสอบ DET เป็นการสอบออนไลน์ ไม่ต้องเดินทางไปที่สนามสอบ จึงมีกฎการสอบที่เข้มงวดมาก เช่น ห้ามจดโน้ตระหว่างสอบ,ห้ามเบนสายตาออกจากหน้าจอ ต้องมองจอตลอดเวลาที่สอบเป็นต้น
ค่าสมัครสอบ DET ไม่แพง หากเทียบกับการสอบข้อสอบภาษาอังกฤษในระดับสากลเหมือนกัน เช่น IELTS, TOEFL iBT
รอลผลสอบ DET เพียง 48 ชั่วโมงหลังสอบ
ใช้เวลาทำข้อสอบเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วกว่าข้อสอบแบบอื่น
DET Speaking ใช้เวลาในการตอบคำถามเพียง 1-3 นาที ทำให้ไม่ต้องตอบคำถามมากเกินไป และมีการส่งวีดีโอสัมภาษณ์ให้มหาวิทยาลัยดูประกอบการคัดเลือกเพิ่มเติมด้วย

 

10 เหตุผลที่ควรเลือกสอบ DET แทนการสอบ IELTS TOEFL CU-TEP TU-GET

  1. DET สอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และสภาพแวดล้อมที่เงียบ
  2. ค่าสมัครสอบ Duolingo ไม่แพง หากเทียบกับการสอบข้อสอบภาษาอังกฤษในระดับสากลเหมือนกัน เช่น IELTS , TOEFL iBT , CU-TEP , TU-GET
  3. รู้ผลเร็ว โดยรอลผลสอบเพียง 48 ชั่วโมงหลังสอบ
  4. ใช้เวลาทำข้อสอบเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วกว่าข้อสอบแบบอื่น
  5. DET Speaking ใช้เวลาในการตอบคำถามเพียง 1-3 นาที ทำให้ไม่ต้องตอบคำถามมากเกินไป
  6. มีการส่งวีดีโอสัมภาษณ์ให้มหาวิทยาลัยดูประกอบการคัดเลือกเพิ่มเติม
  7. สามารถทดลองทำข้อสอบ DET ก่อนการสอบจริงได้
  8. ขั้นตอนการสมัครสอบ DET ง่าย ไม่ซับซ้อน
  9. DET มีรอบสอบให้เลือกหลากหลายกว่าข้อสอบภาษาอังกฤษอื่น ๆ
  10. หลังจากซื้อข้อสอบ DET แล้ว สามารถเริ่มทดสอบตอนไหนก็ได้ภายใน 21 วัน

 

ผลคะแนน DET

ข้อสอบ DET มีคะแนนเต็ม 160 คะแนน เพิ่มขึ้นครั้งละ 5 คะแนน โดยแต่ละช่วงคะแนนจะบ่งบอกถึงทักษะทางภาษาอังกฤษ ดังนี้

  • 120 – 160 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจความหลากหลายของภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาเฉพาะในสถานการณ์ต่าง ๆ ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้การอุปมาอุปมัย และเข้าใจสำนวนโวหารได้ รวมไปถึงผู้สอบสามารถใช้ภาษาในเชิงสังคม วิชาการ และวิชาชีพส่วนใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ
  • 90 – 115 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถโต้ตอบหรือเข้าใจถึงการสื่อสารในหัวข้อที่ไม่คุ้นเคยได้ รวมไปถึงสามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของการเขียนเชิงรูปธรรมและนามธรรมได้
  • 60 – 85 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของการเขียนเชิงรูปธรรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันได้ และสามารถบรรยายแสดงความคิดเห็น การวางแผน หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ได้
  • 10 – 55 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจคำศัพท์ หรือวลีต่าง ๆ ได้ในระดับพื้นฐาน สามารถสื่อสารหรือจัดการกับข้อมูลที่ไม่วับซ้อนให้อยู่ในรูปแบบที่คุ้นเคยได้
Related Posts