Duolingo คืออะไร
Duolingo English Test หรือ Duolingo คือ การสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ English Test แบบออนไลน์ ซึ่งจะเป็นข้อสอบแบบ Computer Adaptive Test นั่นคือ ข้อสอบจะปรับความยากง่ายไปตามความสามารถของคนสอบ ประกอบไปด้วย 4 ทักษะ ได้แก่ Reading (การเขียน), Listening (การฟัง), Writing (การเขียน), และ Speaking (การพูด) ทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ และมีค่าสมัครสอบเพียง 1,600 บาท/ครั้ง
ผลคะแนน สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มากถึง 3,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงที่ MUIC หรือวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลด้วย
ค่าสมัครสอบ เพียง 1,650 บาท/ครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://englishtest.duolingo.com/
Table of Contents
เจาะลึก! ข้อสอบ Duolingo English Test
ข้อดีของการสอบ Duolingo
– เป็นการสอบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และสภาพแวดล้อมที่เงียบ
– ค่าสมัครสอบไม่แพง หากเทียบกับการสอบข้อสอบภาษาอังกฤษในระดับสากลเหมือนกัน เช่น IELTS, TOEFL iBT
– รอลผลสอบเพียง 48 ชั่วโมงหลังสอบ
– ใช้เวลาทำข้อสอบเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วกว่าข้อสอบแบบอื่น
– Speaking ใช้เวลาในการตอบคำถามเพียง 1-3 นาที ทำให้ไม่ต้องตอบคำถามมากเกินไป และมีการส่งวีดีโอสัมภาษณ์ให้มหาวิทยาลัยดูประกอบการคัดเลือกเพิ่มเติมด้วย
ข้อเสียของการสอบ Duolingo
เนื่องจากเป็นการสอบออนไลน์ ไม่ต้องเดินทางไปที่สนามสอบ จึงมีกฎการสอบที่เข้มงวดมาก เช่น ห้ามจดโน้ตระหว่างสอบ,ห้ามเบนสายตาออกจากหน้าจอ ต้องมองจอตลอดเวลาที่สอบเป็นต้น
รูปแบบการสอบ Duolingo
ข้อสอบจะมีรูปแบบโจทย์ข้อสอบ 12 แบบด้วยกัน โดยการสอบแต่ละแบบจะเป็นการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ 2 ทักษะ พร้อมกัน
ข้อสอบ “การอ่านและทำให้สมบูรณ์” ต้องการให้ผู้เข้าสอบ“พิมพ์ตัวอักษรที่หายไปเพื่อทำให้ข้อความด้านล่างสมบูรณ์” สำหรับคำถามประเภทนี้ ผู้สมัครจะเติมคำในช่องว่างของคำที่ไม่สมบูรณ์ในข้อความ
ข้อสอบมีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 3 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Read and Complete : อ่านเนื้อความทั้งหมดก่อนที่จะพิจารณาคำแต่ละคำ ใช้คำใบ้ในบริบทเพื่อช่วยให้เติมคำได้อย่างสมบูรณ์
ข้อสอบ ส่วน “อ่านและเลือก” สำหรับคำถามอ่านและเลือกนี้ ผู้สอบจำเป็นต้อง “เลือกคำที่เป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ จากบัญชีคำศัพท์ทั้งหมด” ผู้สมัครจะต้องอ่านแต่ละคำในบัญชีรายชื่อและตัดสินใจเลือกว่าคำใดเป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ
ข้อสอบมีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Read and Select : เลือกเฉพาะคำที่เป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ ซึ่งอาจจะมีจำนวนกี่คำก็ได้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลหากบางคำถามจะเจอคำภาษาอังกฤษที่ถูกต้องมากกว่าคำถามอื่นๆ
สำหรับประเภทคำถาม “ฟังและเลือก” ผู้สมัครจำเป็นต้อง “เลือกคำที่เป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ จากบัญชีคำศัพท์ทั้งหมด” คล้ายกับการอ่านและเลือก เราจะต้องพยายามหาคำที่เป็นภาษาอังกฤษจริงๆ แต่ในคำถามข้อนี้ เราจะต้องฟังเพื่อหาว่าคำไหนเป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ
ข้อสอบมีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1.30 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Listen and Select : เราต้องตั้งใจฟังแต่ละพยางค์ของคำให้ดี คำหลอกบางคำอาจมีความแตกต่างจากคำจริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ให้เลือกเฉพาะคำที่เป็นคำภาษาอังกฤษจริงๆ เท่านั้น
สำหรับคำถามประเภท “ฟังและพิมพ์” นี้ ผู้เข้าสอบจะต้องพิมพ์ข้อความที่ผู้เข้าสอบได้ยินในโจทย์นี้ ผู้เข้าสอบจะได้ยินคนพูดข้อความและต้องฟังให้ได้ว่าได้ยินว่าอะไร
ข้อสอบมีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Listen and Type : พิมพ์สิ่งที่ได้ยินก่อน แล้วค่อยตรวจสอบคำตอบในสิ่งที่พิมพ์อีกครั้งโดยการกดปุ่มเล่นซ้ำ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความที่พิมพ์ไปแล้ว
สำหรับคำถาม “อ่านออกเสียง” ผู้สมัครจะต้องบันทึกเสียงตัวเองขณะพูดข้อความด้านล่าง ในคำถามประเภทนี้ จะให้อ่านข้อความที่พิมพ์ไว้ด้านล่าง และพูดออกเสียงกับไมโครโฟนที่เครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อสอบมีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 20 วินาที
เทคนิคทำข้อสอบ Read Aloud : หากคุณมีเวลาให้ฝึกพูดออกเสียงข้อความนั้นๆ ก่อนจะเริ่มบันทึก ให้สังเกตการเว้นวรรคของข้อความให้ดี เพื่อช่วยให้ เว้นจังหวะได้อย่างถูกต้อง และให้เว้นช่วงสั้นๆ ในแต่ละเครื่องหมายจุลภาค (comma)
ผู้สมัครจะที่เขียนบรรยายเกี่ยวกับรูปภาพ จะต้อง “เขียนหนึ่งหรือสองประโยคเพื่อบรรยายรูปภาพ” สำหรับคำถามประเภทนี้ จะเห็นรูปภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วต้องเขียนบรรยายรูปภาพนั้น
ข้อสอบมีจำนวน 3 ข้อ ให้เวลาข้อละ 60 วินาที
เทคนิคทำข้อสอบ Write About the Photo : พยายามอธิบายลงลึกไปที่รายละเอียดของรูปภาพ ไม่ใช่เพียงการบรรยายแบบง่ายๆ คำสั่งของโจทย์ให้เราเขียนประโยคสมบูรณ์หนึ่งประโยค แต่พยายามเขียนให้มากกว่าหนึ่งประโยค เนื่องจากการเขียนตอบที่ยาวขึ้น จะช่วยให้ได้แสดงทักษะทางภาษามากขึ้น
สำหรับคำถามพูดอธิบายเกี่ยวกับรูปภาพ ผู้สมัครจำเป็นต้อง “พูดบรรยายเกี่ยวกับรูปภาพด้านล่างอย่างน้อย 30 วินาที” ผู้สมัครจะพูดบรรยายเกี่ยวกับรูปภาพที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ข้อสอบมีจำนวน 1 ข้อ ให้เวลาข้อละ 30-60 วินาที
เทคนิคทำข้อสอบ Speak About the Photo : การพูดบรรยายรูปภาพนั้น ให้เราพูดเหมือนกับว่าเรากำลังอธิบายให้คนที่ไม่เห็นรูปภาพนั้น สามารถนึกภาพตามได้ พูดด้วยจังหวะที่เป็นธรรมชาติและออกเสียงให้ชัดเจน
สอบ Duolingo การอ่านและเขียนนั้น ผู้สมัครจำต้อง “เขียนตอบคำถามที่โจทย์ให้มาอย่างน้อย 50 คำ” คำถามประเภทนี้ จะต้องอ่านและพร้อมเขียนตอบ หลังจากนั้น ผู้เข้าสอบจะต้องเขียนตอบอย่างน้อย 50 คำ
ข้อสอบมีจำนวน 1 ข้อ ให้เวลาข้อละ 5 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Read then Write : เขียนให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะเขียนได้ ตราบใดเท่าที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและสิ่งที่เขียนนั้นเกี่ยวข้องกับหัวข้อ ไม่จำเป็นต้องจำกัดแค่ 50 คำ
ข้อสอบการอ่านและพูดนั้น ผู้เข้าสอบจะต้อง “พูดเกี่ยวกับคำถามที่อยู่ด้านล่าง” สำหรับคำถามประเภทนี้ ผู้เข้าสอบจะเห็นโจทย์ที่ให้มาอยู่แล้ว และให้พูดตอบคำถามนั้น โดยมีเวลาเตรียมตัว 30 วินาที
ข้อสอบมีจำนวน 2 ข้อ มีเวลาให้เตรียมการพูด 30 วินาที
เทคนิคทำข้อสอบ Read then Speak : พูดอย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจน ใช้คำและโครงสร้างให้หลากหลาย
คำถามฟังและพูด ผู้เข้าสอบจะต้อง “พูดตอบคำถามที่คุณได้ยิน” สำหรับคำถามประเภทนี้ ผู้เข้าสอบจะได้ยินโจทย์คำถาม และพูดตอบ
ข้อสอบมีจำนวน 1 ข้อ ให้เวลา 90 วินาที
เทคนิคทำข้อสอบ Duolingo Listen then Speak : เวลาสอบจะต้องมั่นใจว่าได้ยินและเข้าใจชัดเจนในสิ่งที่โจทย์พูด ก่อนที่จะเริ่มกดบันทึกเพื่อพูดตอบคำถาม ผู้เข้าสอบสามารถกดปุ่มฟังสิ่งที่โจทย์พูดซ้ำได้อีก 2 ครั้ง (รวมทั้งหมดเป็น 3 ครั้ง)
สำหรับโจทย์เติมให้ประโยคสมบูรณ์ ผู้เข้าสอบจะต้อง “เลือกคำที่เหมาะสมที่สุดเพื่อไปเติมในแต่ละช่องว่าง” ในโจทย์นี้ ผู้สอบจะเห็นบทความที่มีข่องว่างเว้นไว้หลายช่อง ให้เลือกคำเพื่อไปเติมให้ความให้ในบทความสมบูรณ์
ข้อสอบมีจำนวน 2 ชุดบทความ มีคำถามชุดละ 6 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 7-8 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Complete the Sentences : อ่านประโยคทั้งหมดก่อน และใช้คำใบ้ในบริบทเพื่อให้ช่วยคุณตัดสินใจว่าจะเลือกคำใดที่เป็นคำที่ดีที่สุด
สำหรับโจทย์ให้เติมให้บทความให้สมบูรณ์ ผู้สอบ Duolingo จำต้อง “เลือกประโยคที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเติมลงในช่องว่าง” ในโจทย์นี้ จะได้เห็นบทความสองส่วน โดยมีประโยคที่ขาดหายไปอยู่ตรงกลาง
เทคนิคทำข้อสอบ Complete the Passage : บางส่วนของบทความจะคล้ายกับบทความในโจทย์เติมให้ประโยคสมบูรณ์ที่ได้ทำมาก่อนหน้านี้ ผู้สอบต้องมั่นใจว่าต้องอ่านในแต่ละส่วนให้ครบถ้วน โดยเฉพาะเนื้อหาส่วนใหม่
ผู้สมัครที่ทำโจทย์ไฮไลท์คำตอบ จะต้อง “เลือกและลากข้อความเพื่อไฮไลท์คำตอบของคำถามด้านล่าง” ผู้สอบจะเห็นคำถามบนจอ และจะต้องหาคำตอบและไฮไลท์ข้อความคำตอบในบทความ
เทคนิคทำข้อสอบ Highlight the Answer : เลือกให้ถูกต้องและครอบคลุม และจะต้องมั่นใจว่าไฮไลท์เฉพาะส่วนที่เป็นคำตอบของคำถามที่โจทย์ถามเท่านั้น
สำหรับโจทย์ Duolingo อภิปรายความคิดนี้ ผู้สอบจะต้อง “เลือกความคิดที่แสดงไว้ในบทความ” ในโจทย์นี้ ผู้สอบจะต้องเลือกตัวเลือกความคิดจากหลายๆ ตัวเลือกที่แสดงความคิดที่เหมาะสมจากบทความได้ดีที่สุด
เทคนิคทำข้อสอบ Identify the Idea : ให้อ่านและพิจารณาแต่ละตัวเลือกอย่างละเอียดรอบคอบ
ในการทำโจทย์ตั้งชื่อเรื่องนี้ ผู้สอบจะต้อง “เลือกชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุดให้กับบทความ” โดยผู้เข้าสอบจะเลือกชื่อเรื่องของบทความจากตัวเลือกที่โจทย์ให้มา
เทคนิคทำข้อสอบ Title the Passage : บางตัวเลือกที่โจทย์ให้มาอาจดูใกล้เคียงกับชื่อเรื่อง แต่ขอให้ผู้สอบเลือกตัวเลือกที่คิดว่าเป็นชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุดกับบทความทั้งหมด
สำหรับตัวอย่างการทดสอบการเขียน ผู้สอบจะต้อง “เขียนบรรยายโดยมีเวลา 3-5 นาทีเกี่ยวกับหัวข้อด้านล่าง”
ข้อสอบมี 1 หัวข้อ ให้เวลา 5 นาที
เทคนิคทำข้อสอบ Duolingo Writing Sample : จะต้องเขียนตอบ และต้องเขียนด้วยความยาวในระยะเวลาอย่างน้อย 3 นาที
สำหรับตัวอย่างการทดสอบการพูดนั้น ผู้สมัครจะต้อง “พูดประมาณ 1-3 นาทีเกี่ยวกับหัวข้อด้านล่าง”
ข้อสอบมี 1 ชุด ให้เวลาสอบ 3 นาที
พาร์ทนี้จะไม่ถูกนำไปคิดคะแนน แต่จะส่งให้มหาวิทยาลัยที่เราจะยื่น
เทคนิคทำข้อสอบ Duolingo Speaking Sample : ผู้สอบจะได้อ่านข้อความที่โจทย์ขึ้นให้ จากนั้น คุณก็จะพูดอธิบายเกี่ยวกับหัวข้อที่แสดงไว้
ข้อสอบ Duolingo English Test ยากไหม ?
ข้อสอบไม่ยาก คำศัพท์ที่ออกสอบส่วนมากจะเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วน Writing ไม่ได้มีการเขียนเป็น Essay เหมือน IELTS
วิธีสมัครสอบ Duolingo English Test
สมัครสอบ ได้ที่ https://englishtest.duolingo.com/
ค่าสอบ Duolingo
ค่าสอบ 1,600 บาท
Duolingo English Test คะแนนเต็มเท่าไหร่
คะแนนของการสอบเป็นประเมินทักษะความสามารถทางด้านภาษาของผู้สอบครบทุกด้าน ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน-ขั้นสูง ซึ่งมีเกณฑ์การให้คะแนนของการสอบ ดังนี้
10 – 50 คะแนน : ขั้นพื้นฐาน
เทียบได้กับคะแนนสอบ IELTS 1.5 – 3.5
55 – 80 คะแนน : ขั้นกลาง
เทียบได้กับคะแนนสอบ IELTS 4.0 – 5.0
85 – 120 คะแนน : ขั้นกลางตอนปลาย
เทียบได้กับคะแนนสอบ IELTS 5.5 – 7.0
125 – 160 คะแนน : ขั้นสูง
เทียบได้กับคะแนนสอบ IELTS 7.5 – 9.0
สอบ Duolingo English Test ได้บ่อยแค่ไหน?
การสมัครสอบ สามารถสมัครได้ 3 ครั้ง ภายในระยะเวลา 30 วัน โดยจะเริ่มนับจากการสมัครสอบครั้งแรก
ติว Duolingo ฟรี
ติวสอบ Duolingo ตัวต่อตัว
เรียนตัวต่อตัว | |||
จำนวนนักเรียน | จำนวนชั่วโมง | ||
20 ชม. | 30 ชม. | 40 ชม. | |
1 คน | 22,000 ฿ | 33,000 ฿ | 44,000 ฿ |
2 คน ( ประหยัดถึง 25% ) | 33,000 ฿ | 49,500 ฿ | 66,000 ฿ |
3 คน ( ประหยัดถึง 40% ) | 39,600 ฿ | 59,400 ฿ | 79,200 ฿ |
แถมฟรี 2 ชม. | แถมฟรี 4 ชม. |