Duolingo คืออะไร และข้อดี ข้อเสียของการสอบ

Duolingo English Test
Reading Time: 4 minutes

Duolingo คืออะไร

Duolingo English Test คือ การสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มากถึง 3,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงที่ MUIC หรือวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลด้วย ลักษณะข้อสอบ Duolingo English Test Det จะเป็นแบบ Computer Adaptive Test และทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย 4 ทักษะ ได้แก่ อ่าน เขียน ฟัง และ พูด โดยค่าสมัครสอบเพียง 1,600 บาท/ครั้งเท่านั้น

เมนู

ความเป็นมาของ Duolingo แอปสอนภาษา

Duolingo เป็นแอปพลิเคชัน สำหรับเรียนภาษา โดยมีสอนภาษาต่างๆ มากกว่า 40 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอื่น แต่ในปัจจุบัน Duolingo ภาษาไทย ยังไม่มีสอน โดยต่อมาทาง Duolingo ได้มีเปิดทดสอบภาษาด้วย ซึ่งผลคะแนนสอบเป็นที่ยอมรับของหลายมหาลัย ทั้งไทยและต่างประเทศ

ข้อดี ข้อเสีย สอบ Duolingo English Test

ข้อดี สอบ Duolingo English Test

– สามารถสอบที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นการสอบออนไลน์

– ค่าสอบไม่แพง

– รู้ผลหลังสอบ ภายใน 48 ชั่วโมง

ข้อสอบค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับ ข้อสอบ TOEFL IELTS

ข้อเสีย สอบ Duolingo English Test

– เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษแบบใหม่ จึงอาจจะไม่เป็นที่นิยม เหมือนกับ ข้อสอบ TOEFL IELTS

ข้อสอบ ดิวโอลิงโก แบบ Computer Adaptive Test คืออะไร

การสอบแบบ Computer Adaptive Test Duolingo คือ การที่ข้อสอบจะปรับความยากง่ายไปตามพื้นฐานของผู้สอบโดยอัตโนมัติ หากเราตอบถูกที่ข้อปัจจุบัน ข้อต่อไปก็จะเพิ่มความระดับความยากมากขึ้น และในทางตรงกันข้าม หากเราตอบผิดที่ข้อปัจจุบัน ข้อสอบข้อต่อไปก็จะลดระดับความยากลง จึงทำให้ข้อสอบ มีความหลากหลายและสามารถวัดทักษะภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างแม่นยำ

คำถามในข้อสอบ Duolingo English Test มีแบบไหนบ้าง

ข้อสอบ Duolingo English Test ให้เวลาทำข้อสอบทั้งหมด 45-55 นาที ประกอบไปด้วย 4 ทักษะ ได้แก่ Reading (การอ่าน), Listening (การฟัง), Writing (การเขียน), และ Speaking (การพูด) โดยแต่ละส่วนของข้อสอบจะต้องใช้อย่างน้อย 2 ทักษะในการทำข้อสอบแต่ละข้อ ซึ่งต่างกับข้อสอบอื่น ๆ ที่จะทดสอบให้จบเป็นรายทักษะไป ซึ่งรูปแบบคำถามในข้อสอบมี ดังนี้

Read and Complete

ประโยคในบทความจะถูกเว้นบางคำไว้ให้ผู้สอบอ่านและเติมคำที่ถูกต้องลงไป มีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 3 นาที

Read and Select

ผู้สอบต้องเลือกคำที่ถูกต้อง ซึ่งต้องระมัดระวังคำหลอกที่จะมีปะปนออกมาด้วย มีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1 นาที

Listen and Select

ผู้สอบต้องฟังเสียงของคำศัพท์ และจะต้องเลือกคำศัพท์ที่เราฟังแล้วมีความถูกต้อง มีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1.30 นาที

Listen and Type

ให้ผู้สอบฟังเสียงยาวประมาณ 1 ประโยค จากนั้นให้พิมพ์ตามสิ่งที่ได้ยืนมาจากไฟล์เสียง โดยสามารถฟังได้ทั้งหมด 3 ครั้ง มีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 1 นาที

Read Aloud

ให้ผู้สอบอ่านประโยคที่ข้อสอบให้มาแบบออกเสียง โดยต้องพยายามออกเสียงให้ชัดเจน มีจำนวน 3-7 ข้อ ให้เวลาข้อละ 20 วินาที

Write About the Photo

ให้ผู้สอบเขียนอธิบายรูปภาพที่กำหนดให้ 1-2 ประโยค มีจำนวน 3 ข้อ ให้เวลาข้อละ 60 วินาที

Speak About the Photo

ให้ผู้สอบพูดบรรยายรูปภาพที่ข้อสอบกำหนดมาให้ มีจำนวน 1 ข้อ ให้เวลาข้อละ 30-60 วินาที

Read then Write

ข้อสอบจะมีโจทย์คำสั่งมาให้ แล้วให้ผู้สอบเขียนตอบอย่างน้อย 50 คำ ซึ่งโจทย์ข้อนี้จะยากมากน้อยแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำข้อสอบจากข้อที่ผ่านมา มีจำนวน 1 ข้อ ให้เวลาข้อละ 5 นาที

Read then Speak

เป็นการพูดตอบคำถามจากบัตรคำถาม ซึ่งในบัตรนั้นจะมีคำถามย่อย ๆ ให้ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดประเด็นได้ว่าเราจะต้องพูดเกี่ยวกับหัวข้อใดบ้าง และแนะนำว่าควรพูดให้ครบภายใน 90 วินาที (มีจำนวน 2 ข้อ มีเวลาให้เตรียมการพูด 30 วินาที)

Listen then Speak

ผู้สอบจะต้องฟังคำถามจำนวน 1 ข้อ และวางแผนการตอบภายใน 30 วินาที ซึ่งยังคงแนะนำแบบเดิมคือ ควรพูดให้ครบภายใน 90 วินาที

Speaking Sample

ให้เลือกคำถามมา 1 ชุด แล้วพูดตอบคำถามนั้น ๆ ระบบก็จะทำการบันทึกเสียงของเราไว้ โดยพาร์ทนี้จะไม่ถูกนำไปคิดคะแนน แต่จะส่งให้มหาวิทยาลัยที่เราจะยื่นคะแนนแทน (ใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที)

Writing Sample

ให้เลือกหัวข้อการเขียนมา 1 หัวข้อ ข้อสอบจะให้ผู้สอบเขียนตอบคำถาม ซึ่งแนะนำให้แสดงความสามารถการเขียนให้ได้เยอะและมากที่สุด (ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที)

Duolingo Read and Complete
Read and Complete
Duolingo Read and Select
Read and Select
Duolingo Listen and Select
Listen and Select
Duolingo Listen and Type
Listen and Type
Duolingo Read Aloud
Read Aloud
Duolingo Write About the Photo
Write About the Photo
Duolingo Speak About the Photo
Speak About the Photo
Duolingo Read then Write
Read then Write
Duolingo Read then Speak
Read then Speak
Duolingo Listen then Speak
Listen then Speak
Duolingo Speaking Sample
Speaking Sample
Duolingo Writing Sample
Writing Sample

ผลคะแนนสอบ Duolingo

ข้อสอบ Duolingo English Test มีคะแนนเต็ม 160 คะแนน เพิ่มขึ้นครั้งละ 5 คะแนน โดยแต่ละช่วงคะแนนจะบ่งบอกถึงทักษะทางภาษาอังกฤษ ดังนี้

120 – 160 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจความหลากหลายของภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาเฉพาะในสถานการณ์ต่าง ๆ ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้การอุปมาอุปมัย และเข้าใจสำนวนโวหารได้ รวมไปถึงผู้สอบสามารถใช้ภาษาในเชิงสังคม วิชาการ และวิชาชีพส่วนใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ

90 – 115 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถโต้ตอบหรือเข้าใจถึงการสื่อสารในหัวข้อที่ไม่คุ้นเคยได้ รวมไปถึงสามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของการเขียนเชิงรูปธรรมและนามธรรมได้

60 – 85 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของการเขียนเชิงรูปธรรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันได้ และสามารถบรรยายแสดงความคิดเห็น การวางแผน หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ได้

10 – 55 คะแนน หมายถึง ผู้สอบสามารถเข้าใจคำศัพท์ หรือวลีต่าง ๆ ได้ในระดับพื้นฐาน สามารถสื่อสารหรือจัดการกับข้อมูลที่ไม่วับซ้อนให้อยู่ในรูปแบบที่คุ้นเคยได้

 

ทักษะที่ใช้ทดสอบ Duolingo รูปแบบโจทย์ข้อสอบ

ทักษะที่ใช้ทดสอบรูปแบบโจทย์ข้อสอบ
Read and Completeเติมตัวอักษรเพื่อสร้างคำลงในประโยคของบทความเพื่อให้ได้ใจความที่สมบูรณ์
Read and Selectอ่านคำศัพท์ที่ปรากฏบนหน้าจอ แล้วเลือกเฉพาะคำศัพท์ที่มีในภาษาอังกฤษ
Listen and Selectฟังวิธีการออกเสียงคำศัพท์ แล้วเลือกเฉพาะคำศัพท์ที่มีในภาษาอังกฤษ
Listen and Typeฟังเสียงพูดประโยคภาษาอังกฤษแล้วพิมพ์ประโยคตามที่ได้ยินให้ถูกต้อง (สามารถฟังซ้ำได้สูงสุด 3 รอบ)
Read aloudอ่านออกเสียงประโยคที่ให้มาให้ถูกต้องชัดเจนตามหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษ
Write about the Photoบรรยายรูปภาพที่ให้มาโดยการเขียน ความยาวประมาณ 1-2 ประโยค
Speak about the Photoบรรยายรูปภาพที่ให้มาโดยการพูด
Read, then Writeอ่านคำถามที่ให้มาแล้วเขียนตอบอย่างน้อย 50 คำ
Read, then Speakอ่านคำถามที่ให้มาแล้วพูดตอบให้ครอบคลุมทุกประเด็นให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด
Listen, then Speakฟังคำถามที่ให้มาแล้วพูดตอบให้ครอบคลุมทุกประเด็นให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด
Speaking Sampleเลือกชุดคำถามที่ต้องการมา 1 ชุด (มี 2 ชุดคำถามให้เลือก) แล้วพูดตอบภายในเวลาที่กำหนด (ระบบจะบันทึกเสียงของเราไว้และส่งไปยังมหาวิทยาลัยที่เราสมัครเรียน)
Writing Sampleเลือกชุดคำถามที่ต้องการมา 1 ชุด (มี 2 ชุดคำถามให้เลือก) แล้วเขียนตอบภายในเวลาที่กำหนด (ระบบจะบันทึกคำตอบของเราไว้และส่งไปยังมหาวิทยาลัยที่เราสมัครเรียน)

สมัครสอบ ดิวโอลิงโก

การสมัครสอบสามารถสมัครออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ดิวโอลิงโก   

ส่วนช่องทางการชำระค่าสอบสามารถเลือกได้ทั้ง Paypal หรือ Credit or Debit card ก็ได้

ค่าสมัครสอบ duolingo

ค่าสอบ 1,600 บาท

การส่งผลคะแนน ดิวโอลิงโก ไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ

ผู้สอบสามารถส่งผลคะแนนไปยังสถาบันต่าง ๆ ได้สูงสุดถึง 20 แห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่หากใครที่ต้องการส่งไปมากกว่า 20 แห่ง ต้องทำการติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนของศูนย์สอบ โดยตรง ซึ่งจะมีการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครดังกล่าวเพิ่มเติมและทำการพิจารณาต่อไป

ติวสอบฟรี Duolingo English Test กับ CHULA TUTOR โดยครูต๊ะ

ทดลองเรียน Duolingo Free online สำหรับเตรียมสอบโดยครูพี่ต๊ะ ที่จะมาสรุปเนื้อหาข้อสอบให้กับน้องๆ พร้อมทั้งเทคนิคอัพคะแนน ทำข้อสอบอย่างไรให้ได้คะแนนตามที่หวัง ตั้งแต่สอบครั้งแรก

เปรียบเทียบ Duolingo กับ IELTS

1. เวลาในการสอบ

Duolingo เวลาในการสอบ 1 ชั่วโมง

IELTS เวลาในการสอบ 2.40 ชั่วโมง

2. สถานที่สอบ

Duolingo สอบที่บ้าน

IELTS สอบที่ศูนย์สอบ

3. ค่าสอบ

Duolingo 1,676 บาท ($49)

IELTS 7,100 บาท

4. ระดับความยากของข้อสอบ

Duolingo ข้อสอบเป็นแบบ Adaptive Test จะปรับความยาก ง่าย ตามผู้สอบ

IELTS ข้อสอบเป็นแบบแนวเดียวหมด เหมือนกันทุกคน

5. Writing

Duolingo ในพาร์ท Writing จะเป็นการพิมพ์ตอบสั้นกว่า พิมพ์แค่ 50 words

IELTS ในพาร์ท Writing จะเป็นการเขียนที่ยาว 150 words และ 250 words

6. Reading

Duolingo เป็นการอ่านบทความ 100 words

IELTS เป็นการอ่านบทความ 2-3 หน้า

7. Speaking

Duolingo เป็นการพูดกับคอม

IELTS เป็นการสอบพูดกับคน

8. Listening

Duolingo การเป็นการฟังบทสนทนาสั้นๆ

IELTS เป็นการฟังบทสนทนาที่ยาว

private
Related Posts