GED อ่านว่า จีอีดี ย่อมาจาก General Educational Development

GED อ่านว่า
Reading Time: < 1 minute

สอบเทียบ GED คืออะไร

เป็นการสอบเทียบระดับชั้นมัธยมปลาย ในหลักสูตรการศึกษาแบบอเมริกา โดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยได้ให้การยอมรับว่าเทียบเท่ากับการเรียนในโรงเรียนระดับชั้น มัธยม 4-6 ทั้งนี้การสอบเทียบ GED จะมีวิชาที่จะต้องสอบด้วยกัน 4 วิชา คือ RLA , Science , Social Studies , Math

GED อ่านว่าอะไร ทำไมคนไทยจำนวนมากนิยมเลือกสอบกันเยอะสุด ๆ

มีเด็กนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่มองหาอนาคตของตนเองภาย อยากเรียนจบระดับปริญญาตรีภายในเวลาอันรวดเร็วเพื่อจะได้ทำตามฝันที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ รวมถึงผู้ปกครองบางคนก็อยากเห็นบุตรหลานเรียนได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถจบการศึกษาที่ดีด้วย การสอบ GED จึงเป็นอีกตัวเลือกน่าสนใจ เพราะนี่คือการสอบเทียบวุฒิตามหลักสูตรอเมริการ แต่ GED อ่านว่าอะไร แล้วมีข้อดีมากแค่ไหนจนทำให้คนไทยจำนวนมากเลือกสอบไม่แพ้การเรียนปกติ มาหาคำตอบกัน

GED อ่านว่าอะไร หมายถึงอะไร

หากอธิบายกันตามความเข้าใจแบบง่าย ๆ GED อ่านว่า เก็ด หรือการสอบ จีอีดี แต่คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมเขียนให้เป็นภาษาไทย เพราะใช้ทับศัพท์ว่า GED ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว ซึ่งคำนี้มีคำย่อมาจาก General Educational Development หมายถึง การสอบนอกระบบการศึกษาเพื่อทดสอบความสามารถในการเลื่อนระดับชั้นเรียนเข้าสู่อุดมศึกษาโดยไม่ต้องเรียนต่อ High School หรือระดับ ม.ปลาย แต่อย่างใด โดยในเมืองไทยของเราเองก็นิยมสอบและนำคะแนนไปยื่นเทียบวุฒิเพื่อเข้าเรียนกับสถาบันต่าง ๆ ทั้งภาคอินเตอร์และภาคปกติ ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์

ทำไม นักเรียน มัธยมปลาย จำนวนมากจึงนิยมสอบ GED

เมื่อเข้าใจกันไปแล้วว่า GED อ่านว่าอะไร จะเรียกแบบไหนก็ตามสะดวก คราวนี้ลองมาหาเหตุผลที่ทำให้นักเรียนไทยจำนวนมากเลือกสอบข้อสอบประเภทนี้เพื่อการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หลัก ๆ คัดมาให้ตามเหตุผล ได้แก่

1. สามารถสอบได้ทันทีเมื่ออายุ 16 ปีบริบูรณ์

หากน้อง ๆ คนไหนมีทักษะ ความเก่ง หรือมีความรู้แน่น ๆ ทั้งในรายวิชาการสอบและเรื่องภาษาอังกฤษ พออายุครบ 16 ปีบริบูรณ์แล้วสามารถสอบเทียบวุฒิ GED เพื่อเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยได้เลย (แต่ต้องมีการเซ็นเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง) ช่วยลดระยะเวลาในการเรียนให้จบเร็วขึ้น สามารถหางานทำหรือเรียนต่อตามที่ตนเองต้องการด้วยอายุยังน้อย

2. มีการสอบเพียงแค่ 4 วิชาเท่านั้น

หากว่ากันตามตรง การสอบ GED จะมีแค่ 4 วิชาที่ต้องทำ ประกอบไปด้วย Reasoning Through Language Arts (ภาษาอังกฤษ), Science (วิทยาศาสตร์), Social Studies (สังคมศาสตร์), Mathematical Reasoning (คณิตศาสตร์) ซึ่งลักษณะข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย หรือเลือกตอบแทบทั้งหมด เฉลี่ยวิชาละ 30-50 ข้อ ยกเว้น Reasoning Through Language Arts ที่ต้องเขียน Essay แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนมีทักษะแน่น ๆ แถมยังสอบซ่อมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งอีกด้วย

3. มีสถานที่สอบและวัน-เวลาในการสอบเยอะมาก

ใครที่อยากเรียนจบเร็ว ๆ การสอบ GED คือช่องทางแนะนำชั้นดีที่สามารถเลือกสถานที่สอบได้ถึง 7 แห่งทั้งไทยกรุงเทพกับต่างจังหวัด รวมถึงยังเปิดให้สอบทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตามเวลาราชการอีกต่างหาก สมัครง่าย อำนวยความสะดวกให้แบบครบทุกด้าน

4. เป็นที่ยอมรับของสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศ

ต้องบอกว่าผลสอบ GED เป็นที่ยอมรับทั้งสถาบันต่าง ๆ ในไทยรวมถึงต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาเจ้าของหลักสูตร ดังนั้นจึงสามารถเลือกสถาบันที่ตนเองต้องการเรียนได้อย่างเต็มที่ เมื่อเลือกได้แล้วก็พุ่งเป้าหมายให้ชัด โอกาสได้เข้าเรียนทั้งที่อายุยังน้อยมีสูงตามที่แนะนำเอาไว้ตั้งแต่ข้อแรกนั่นเอง

คอร์ส GED สอนสด รับรองผล จบใน 1 เดือน


รหัสคอร์ส วันเรียน รอบ เวลา หมายเหตุ เหลือที่นั่ง อาจารย์
G021224 2 ธ.ค. - 10 ม.ค. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
2 เปิ้ล
G161224 16 ธ.ค. - 24 ม.ค. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
2 เปิ้ล
G060125 6 ม.ค. - 7 ก.พ. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
2 เปิ้ล
G200125 20 ม.ค. - 21 ก.พ. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
2 เปิ้ล
G030225 3 ก.พ. - 21 มี.ค. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
5 เปิ้ล
G170225 17 ก.พ. - 4 เม.ย. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
5 เปิ้ล
G030325 3 มี.ค. - 25 เม.ย. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
5 เปิ้ล
G170325 17 มี.ค. - 9 พ.ค. จ-ศ 13:00-16:00
จองที่นั่ง
5 เปิ้ล
Related Posts