MENU
ประวัติ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย มีฐานะเป็นองค์การมหาชน ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยโรงเรียนเกิดจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลและกรมสามัญศึกษา การจัดตั้งโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เน้นการเรียนการสอนด้านวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ บนพื้นที่ของมหาวิทยาลัย
อัตราการแข่งขันรับเข้าประมาณร้อยละ 1.5 (240 คนจากนักเรียนที่สมัครแต่ละปีประมาณ 20,000 คน) โดยนักเรียนทุกคนได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ในโรงเรียน
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มีภารกิจสำคัญในการวิจัย พัฒนา และสร้างองค์ความรู้ในการค้นหาและการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีศักยภาพสูงด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
หลักสูตร มหิดลวิทยานุสรณ์
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ห้องเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
ค่าเทอม MWIT
เรียนฟรี ไม่มีค่าเทอม
แนะนำโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
ทำไมถึงควรเลือกเรียน โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ?
โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เป็นโรงเรียนผลิตบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีประวัติเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ได้รับการประเมินในระดับดีเด่น เป็นต้นแบบทางด้านวิธีการทำงาน กลไกการทำงาน หลักการดำเนินกิจการเพื่อประสบความสำเร็จ มีอัตราส่วนครูต่อนักเรียนที่ดีเยี่ยม โดยมีครู 1 ท่านต่อนักเรียน 8 คน ผลงานและเกียรติประวัติของโรงเรียนโรงเรียนนี้ เช่น การแข่งขันเพชรยอดมงกุฎ การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศและระดับนานาชาติ
ตัวอย่างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง เช่น
นาวาโท นพ.ธนพันธ์ ภูมิชัยเวช นักเรียนเก่า รุ่นที่ 3 เป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตาสองชั้น แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
นพ.วรวัฒน์ แสงวิภาสนภาพร แพทย์เฉพาะทาง สาขาอายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร
มหิดลวิทยานุสรณ์มีจุดเด่นที่นักเรียนติดหมอมากกว่า 100 คน คณะวิทย์ วิศวะ อีกกว่า 50 คน การเลือกเรียนที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับเป็นหมอและเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพการเรียนการสอนดีที่สุด
สอบเข้า โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ยากไหม?
การสอบเข้าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เป็นที่รู้กันว่าเป็นการสอบที่ท้าทายและมีความยากพอสมควร เนื่องจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เป็นโรงเรียนชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย การคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาจึงมีการแข่งขันสูง
การสอบเข้าประกอบด้วยหลายขั้นตอน ดังนี้:
การสอบข้อเขียน : ข้อสอบแบ่งเป็นหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ข้อสอบเหล่านี้มักมีเนื้อหาที่ซับซ้อนและท้าทาย
การสอบสัมภาษณ์ : หลังจากผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว นักเรียนบางส่วนจะถูกคัดเลือกให้เข้าสอบสัมภาษณ์ การสอบสัมภาษณ์จะประเมินทักษะการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ และความสามารถในการแก้ปัญหา
การทดสอบเชิงปฏิบัติ : ในบางปีอาจมีการทดสอบเชิงปฏิบัติในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องดูรายละเอียดเกณฑ์การรับสมัครในแต่ละปีอีกครั้ง
การเตรียมตัวที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ ที่จะช่วยให้นักเรียนมีโอกาสสูงขึ้นในการสอบผ่านมากยิ่งขึ้น