O-level คืออะไร เทียบเท่าระดับชั้นไหน
O-level นับเป็นอีกประเภทการสอบที่แม้ในเมืองไทยอาจไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่นัก แต่ก็มีน้อง ๆ จำนวนมากที่ให้ความสนใจและวางแผนการเรียนของตนเองเพื่อไปต่อยังประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นการทำความเข้าใจรายละเอียดทุกด้านให้ครบถ้วนจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดี การสอบนี้คืออะไร เทียบเท่าระดับชั้นไหน ต่างกับการสอบแบบอื่นยังไง ตามมาเลย
O-level คืออะไร
O-level คือ ระบบการศึกษาประเภทหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากสหราชอาณาจักร และปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ได้มีการนำเอามาใช้งาน ย่อมาจาก General Certificate of Education: Ordinary Level (GCE O Level) เป็นเสมือนการประเมินนักเรียนคนนั้น ๆ ว่ามีโอกาสเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้มากน้อยเพียงใด
รวมถึงยังวัดทักษะและความถนัดเบื้องต้นของผู้เรียน เช่น บางคนสอบไม่ผ่านการเลือกเรียนสายอาชีพในสิงคโปร์อาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า ส่วนคนที่สอบผ่านก็เหมาะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาที่ตนเองตั้งเป้าไว้
การสอบนี้ปกติแล้วจะอยู่ในช่วงการเรียนเกรด Year 10 – Year 11 อายุของผู้สอบอยู่ระหว่าง 16-18 ปี ซึ่งคุณภาพของการสอบนี้ต้องบอกว่าได้มาตรฐานสุด ๆ เพราะมีการรับรองจาก 3 สถาบันใหญ่ ประกอบไปด้วย
- กระทรวงศึกษาธิการ (The Ministry of Education หรือ MOE)
- คณะกรรมการการสอบและประเมินผลของสิงคโปร์ (Singapore Examination and Assessment Board หรือ SEAB)
- Cambridge Assessment International Education
O-level เทียบเท่าการเรียนในระดับใด
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังสงสัยว่า O level เทียบเท่ากับการเรียนในระดับไหนตามรูปแบบการเรียนของเมืองไทย หากใครสนใจไปเรียนต่อสิงคโปร์เพื่อสอบเข้ามหาวิทายลัยต้องมีวุฒิเทียบเท่าในระดับ ม.5 หรือถ้าเรียนในสิงคโปร์อยู่แล้วต้องเรียนจบในระดับ Sec 4
ซึ่งการเรียนในประเทศสิงคโปร์ปกติจะต้องเรียนในระดับ Secondary ประมาณ 4-5 ปี จากนั้นต้องไปเรียนและสอบระดับ A-Level อีก 2 ปี ทั้งนี้ในระหว่างเรียนยังมีการแบ่งออกเป็น 2 สาย เพื่อเลือกไปเรียนในระดับที่เหมาะสม นั่นคือ
- สาย Express มีระยะเวลาในการเรียน ม.1-4
- สาย Normal มีระยะเวลาในการเรียน ม.1-5
ซึ่งจะได้เรียนในสายไหนขึ้นอยู่กับผลคะแนนตอนเรียนในระดับประถมศึกษา (PLSE) รวมถึงการทำคะแนนในแต่ละปีที่เรียนด้วย หากทำคะแนนได้ดีก็อยู่สาย Express ได้ต่อ (ใครเรียน Normal ทำคะแนนดีก็เลื่อนสายได้) แต่ถ้าทำคะแนนไม่ดีจาก Express ก็มีสิทธิ์หล่นลงมาอยู่สาย Normal ได้เช่นกัน
เมื่อมีการเรียนจบในหลักสูตรที่สิงคโปร์กำหนดเอาไว้เรียบร้อย คราวนี้ก็ต้องทำการสอบ O level เพื่อประเมินความรู้ของผู้เรียนก่อนเข้าสู่ระดับปริญญาตรีต่อไป หากสอบผ่านแล้วกลับมาเมืองไทยก็เทียบเท่ากับการจบวุฒิมัธยมปลาย สามารถนำเอาคะแนนมาใช้ยื่นเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของเมืองไทยได้
เปรียบเทียบ A-Level กับ O-level แตกต่างกันอย่างไร
อีกข้อสงสัยคือการเปรียบเทียบ A-Level กับ O level แตกต่างกันอย่างไร คำตอบคือ สิ่งแรกน้อง ๆ ที่เรียนในระดับมัธยมปลายต้องทำการสอบ O level ให้ผ่านตามเกณฑ์คะแนนที่กำหนดเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงสามารถสมัครเรียนต่อในระดับ Advance เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในสิงคโปร์จะเรียก Junior College สำหรับเตรียมสอบ A Level และยื่นสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป
ซึ่งใครที่สอบ A-Level ไม่ผ่านแม้จะเข้าเรียนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของสิงคโปร์ไม่ได้ แต่ก็ยังได้เรียนในสายอาชีพ หรือสายเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงถ้ากลับมาสมัครเรียนในเมืองไทยก็ไม่มีปัญหา
คอร์สเรียนสดกับทางสถาบัน ครอบคลุมทุกเนื้อหา
คอร์สติวสอบ O level สอนกันสด ๆ โดยติวเตอร์ของ CHULATUTOR จำนวนนักเรียนไม่เกิน 10 คนต่อห้อง สอนตามแนวทาง Hybrid Learning สร้างความรู้แบบครบครัน กรณีไม่สะดวกเข้าเรียนก็สามารถเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom ได้ตามปกติ ไม่มีพลาดเนื้อหาสำคัญของวันนั้น มีข้อสงสัยสามารถสอบถามกับติวเตอร์ได้ทันที การไปเรียนต่อสิงคโปร์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
คอร์สเรียนผ่านวิดีโอออนไลน์ เรียนง่าย ๆ ที่บ้าน สะดวกกว่าใคร
คอร์สติวสอบด้วยรูปแบบการเรียนผ่านคลิปวิดีโอ ทุกรายวิชา ข้อสอบ O level ทั้งหมดไม่มีพลาด อธิบายได้ชัดเจน เข้าใจง่าย มีส่วนสำคัญต่อการสอบจริง เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็สะดวกรวดเร็ว แม้อยู่ต่างจังหวัดก็หายห่วง กรณีมีข้อสงสัยในเนื้อหาส่วนใดก็ตามแค่เปิดย้อนกลับไปก็เริ่มต้นทบทวนกันใหม่ได้ทันที ง่ายดายขนาดนี้ไม่อยากให้พลาดเด็ดขาด
คอร์สเรียนแบบตัวต่อตัว สอนละเอียด ตรงทุกจุด
คอร์สติวสอบแบบตัวต่อตัวโดยติวเตอร์ของเรา กรณีเข้าเรียนได้กับทางสถาบัน มีห้องเรียนแยกต่างหาก ส่วนตัวสูง แต่ถ้าใครเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom ก็ไม่มีปัญหา เลือกตามความสะดวกของตนเอง เมื่อเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวเด็กจึงได้รับความรู้แบบครบถ้วน อัดแน่นเนื้อหาสำคัญทั้งหมด ไม่ต้องกังวลใจใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมสอบอย่างแน่นอน
ติวตัวต่อตัว | |||
จำนวนนักเรียน | จำนวนชั่วโมง | ||
20 ชม. | 30 ชม. | 40 ชม. | |
1 คน | 22,000 ฿ | 33,000 ฿ | 44,000 ฿ |
2 คน ( ประหยัดถึง 25% ) |
33,000 ฿ | 49,500 ฿ | 66,000 ฿ |
3 คน ( ประหยัดถึง 40% ) |
39,600 ฿ | 59,400 ฿ | 79,200 ฿ |
แถมฟรี 2 ชม. | แถมฟรี 4 ชม. | ||
หมายเหตุ :
|