TOEFL IBT คืออะไร

TOEFL IBT คืออะไร มีสอบอะไรบ้าง สอบที่บ้านได้หรือไม่
Reading Time: 2 minutes

TOEFL iBT คืออะไร

TOEFL iBT คือ ข้อสอบภาษาอังกฤษตามแบบมาตรฐานของอเมริกันที่จัดสอบโดย ETS ข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (TOEFL Listening) การอ่าน (TOEFL Reading) การเขียน (TOEFL Writing) และการพูด (TOEFL Speaking) มีคะแนนเต็ม 120 คะแนน เป็นการทำข้อสอบแบบคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบ ผลคะแนนมีอายุ 2 ปี ตารางสอบมีเปิดให้สมัครทุกเดือน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคะแนนสอบ TOEFL iBT มักใช้ยื่นเพื่อการเรียนต่อทั้งในและต่างประเทศ

 

TOEFL iBT Home Edition คืออะไร

TOEFL iBT Home Edition คือ การสอบ TOEFL iBT ได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปสนามสอบ ซึ่งรายละเอียดการสอบ แนวข้อสอบต่าง ๆ ก็จะเหมือนกัน ต่างกันเพียงแค่สามารถนั่งทำข้อสอบที่บ้านได้เลยและอาจมีรอบสอบที่ถี่กว่า โดยการสอบ TOEFL iBT Home Edition ผู้สอบจะต้องติดตั้ง ETS® Test Browser ลงคอมพิวเตอร์ และจะมีเจ้าหน้าที่คุมสอบคอยมอนิเตอร์เราตลอดผ่านระบบออนไลน์เพื่อป้องกันการทุจริต อีกทั้งยังมีการตรวจสอบอุปกรณ์การสอบและสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดด้วย

 

TOEFL iBT สอบอะไรบ้าง

ข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking) โดยแต่ละพาร์ทจะมีการออกสอบ ดังนี้ การฟัง (Listening) มีคำถามทั้งหมด 28-39 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 41-57 นาที ลักษณะข้อสอบจะให้ฟังเสียงเลคเชอร์ การอภิปราย บทสนทนา หรือการถามตอบในห้องเรียน การอ่าน (Reading) มีคำถามทั้งหมด 30-40 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 54-72 นาที ลักษณะข้อสอบเป็นการอ่านบทความเชิงวิชาการประมาณ 3-4 บทความ การเขียน (Writing) มีคำถามทั้งหมด 2 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 50 นาที ลักษณะข้อสอบจะเป็นการให้เขียน Essay เกี่ยวกับสิ่งที่ข้อสอบให้อ่านและให้ฟัง  การพูด (Speaking) มีคำถามทั้งหมด 4 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 17 นาที ลักษณะข้อสอบจะให้เราพูดแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่ใกล้ตัว รวมไปถึงการที่ข้อสอบจะให้อ่านบทความและให้ฟังบางอย่างก่อน จากนั้นจึงตอบคำถามด้วยการพูดเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้รับมาจากการอ่านและการฟัง

 

TOEFL iBT คะแนนเต็มเท่าไหร่ รู้ผลกี่วันหลังสอบ

คะแนนเต็มของ TOEFL iBT คือ 120 คะแนน โดยเป็นคะแนนที่รวบรวมมาจากคะแนนทั้ง 4 พาร์ท ได้แก่ พาร์ทการฟัง (Listening) 30 คะแนน พาร์ทการอ่าน (Reading) 30 คะแนน พาร์ทการเขียน (Writing) 30 คะแนน และพาร์ทการพูด (Speaking) 30 คะแนน ซึ่งเราจะทราบผลคะแนนประมาณ 6 วันหลังสอบ

 

วิธีการสมัครสอบ TOEFL iBT

TOEFL iBT สมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ของ ETS โดยตรง ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้

  • เข้าเว็บไซต์ https://www.ets.org/toefl จากนั้นคลิกที่ “ETS Account”
  • หากมีแอคเคาน์อยู่แล้ว ให้กรอก Username และ Password เพื่อเข้าสู่ระบบได้เลย แต่หากยังไม่มีให้คลิกที่ “Create an Account”
  • จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เพื่อสร้างแอคเคาน์สำหรับสมัครสอบ แล้วทำการ Log in เข้าสู่ระบบ

เลือกประเภทการสอบ โดยให้เลือก “Test Center” หากต้องการสอบที่สนามสอบ หรือเลือก “Home Edition”

หากต้องการสอบ TOEFL iBT ที่บ้าน จากนั้นให้เลือกวัน เวลาที่ และสนามสอบ

  • กรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย จนเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย

 

TOEFL iBT สอบที่ไหน

หากเลือกสมัครสอบ TOEFL iBT Home Edition จะสามารถสอบที่บ้านได้เลย แต่หากเลือกสอบแบบเดินทางไปที่ศูนย์สอบ ก็จะมีสนามสอบให้เราเลือกทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ขึ้นอยู่กับว่าในรอบที่เปิดสอบนั้นทางระบบจะเปิดสนามสอบให้เราเลือกที่ไหนได้บ้าง ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูสนามสอบคร่าว ๆ ก่อนที่จะสมัครสอบจริงได้ที่เว็บไซต์ของ ETS ได้เช่นเดิม

 

TOEFL iBT ค่าสอบเท่าไหร่

TOEFL iBT จะกำหนดค่าสมัครสอบแตกต่างกันไปในแต่ละโซนที่ตั้งของประเทศ ซึ่งจะต่างกันไม่เยอะมากนัก โดยสำหรับศูนย์สอบที่ประเทศไทยจะมีค่าสมัครสอบอยู่ที่ $195

 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง TOEFL iBT กับ TOEFL ITP

ข้อสอบ TOEFL iBT กับ ITP เป็นข้อสอบเชิงวิชาการเหมือนกัน สามารถใช้ยื่นเพื่อการเรียนต่อได้ทั้งคู่ แต่ TOEFL iBT จะเป็นข้อสอบมาตรฐานระดับสากล สามารถใช้ยื่นได้หลายร้อยประเทศทั่วโลก จึงได้รับความนิยมมากกว่า อีกทั้งยังเป็นข้อสอบที่วัดความสามารถภาษาอังกฤษได้อย่างรอบด้านมากกว่าด้วย เพราะสอบครบทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน ในขณะที่ TOEFL ITP จะสอบเพียงการฟัง การอ่าน และไวยกรณ์ต่าง ๆ โดยที่ข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม TOEFL ITP ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการเขียนและการพูด ซึ่งก่อนจะเลือกสอบแบบใด แนะนำให้ตรวจสอบกับที่ที่เราจะยื่นก่อนว่า สามารถใช้คะแนนจากการสอบแบบใดได้บ้าง

 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง TOEFL iBT กับ IELTS

หากเปรียบเทียบกับ IELTS Academic ต่างก็เป็นข้อสอบเชิงวิชาการที่เหมาะสำหรับใช้ยื่นเรียนต่อทั้งคู่ เป็นข้อสอบมาตรฐานระดับสากล ได้รับความนิยมทั่วโลกไม่ต่างกัน นอกจากนี้ เนื้อหาการสอบก็ยังครอบคลุมทุกทักษะเหมือนกันอีกด้วย คือมีทั้งการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด จะต่างกันเพียงหากเป็น IELTS จะสอบพูดกับคนที่เป็นเจ้าของภาษา แต่สำหรับ TOEFL iBT จะเป็นการสอบพูดกับคอมพิวเตอร์ อีกทั้ง IELTS จะให้เลือกได้ว่าอยากสอบแบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์ (พาร์ทการพูดยังสอบกับคนเหมือนเดิม) ส่วน TOEFL iBT แม้จะจำกัดเฉพาะการสอบแบบคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ก็สามารถให้เลือกได้ว่าอยากสอบที่ศูนย์สอบหรือต้องการสอบที่บ้าน ส่วนรายละเอียดลักษณะคำถามก็อาจจะมีต่างกันบ้าง เช่น จำนวนคำที่เขียนไม่เท่ากัน ลักษณะของโจทย์ซับซ้อนต่างกัน

 

คอร์ส TOEFL IBT สอนสด รับรองผล


รหัสคอร์ส วันเรียน รอบ เวลา หมายเหตุ เหลือที่นั่ง อาจารย์
CECA1024 14 ต.ค. - 7 พ.ย. จ-พฤ 18:00-20:30
[เต็มแล้ว]
-1 วี,ทราย
CECB1024 19 ต.ค. - 10 พ.ย. ส-อา 10:00-16:00
[เต็มแล้ว]
-5 วี,ทราย
CECB11124 2 พ.ย. - 24 พ.ย. ส-อา 10:00-16:00
จองที่นั่ง
1 โจ้,ทราย
CECA11124 4 พ.ย. - 28 พ.ย. จ-พฤ 18:00-20:30
จองที่นั่ง
3 โจ้,ทราย
CECB21124 9 พ.ย. - 1 ธ.ค. ส-อา 10:00-16:00
จองที่นั่ง
2 โจ้,ทราย
CECA21124 11 พ.ย. - 5 ธ.ค. จ-พฤ 18:00-20:30
จองที่นั่ง
2 โย,ทราย
CECB31124 16 พ.ย. - 8 ธ.ค. ส-อา 10:00-16:00
จองที่นั่ง
3 โย,ทราย
CECA31124 18 พ.ย. - 12 ธ.ค. จ-พฤ 18:00-20:30
จองที่นั่ง
1 โย,ทราย
CECB41124 23 พ.ย. - 15 ธ.ค. ส-อา 10:00-16:00
จองที่นั่ง
3 โย,ทราย
CECA41124 25 พ.ย. - 19 ธ.ค. จ-พฤ 18:00-20:30
จองที่นั่ง
2 โย,ทราย
CECB51124 30 พ.ย. - 22 ธ.ค. ส-อา 10:00-16:00
จองที่นั่ง
4 โย,ทราย
Related Posts