TOEIC speaking and writing chapter 1
การสอบ TOEIC คนส่วนใหญ่จะนึกถึงข้อสอบ Listening ที่ให้ดูรูปภาพแล้วฟังว่าข้อไหนที่ตรงกับรูปภาพ ฟังคนคุยกันแล้วตอบคำถามว่าใช่ที่พวกนางคุยกันหรือไม่ และสอบอ่านจากจดหมาย อีเมล์ หรือป้ายโฆษณาต่างๆ แต่ TOEIC ไม่ได้มีแค่เฉพาะ Listening & Reading อย่างเดียวนะยูววววว์
ข้อสอบ TOEIC จริงๆ แล้วมี 2 ประเภท คือ
1. Listening & Reading คะแนนเต็ม 990 คะแนนแบ่งเป็น Part ละ 495 คะแนน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการสอบแบบที่หนึ่งนี้ เพื่อเข้าองค์กรที่ทำงานต่างๆ แต่ ยังมีการสอบ TOEIC อีกประเภทซึ่ง หลายองค์กร เริ่มที่จะใช้ TOEIC แบบนี้ใช้เป็นเกณฑ์ในการสมัครเข้าทำงานแล้วนั่นก็คือ “Speaking & Writing”
2. Speaking & Writing การสอบพูดและเขียนภาษาอังกฤษของ TOEIC คะแนนเต็ม 400 คะแนน แบ่งเป็น Part ละ 200 คะแนน หน่วยงานราชการที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศ อย่างเช่น กระทรวงการต่างประเทศ หรือบางบริษัทฯ ที่ต้องการพนักงานติดต่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ ต้องการคะแนน TOEIC Speaking & Writing นี้ คะแนนที่ผ่านเกณฑ์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 250 คะแนน
แนะนำการสอบ TOEIC Speaking & Writing กันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว การจอง การสมัครสอบ บรรยากาศจริง และข้อสอบ เราจะมาบอกกันอย่างละเอียดในรูปแบบไตรภาคกันเลยทีเดียว มี 3 Chapter ให้ได้ติดตามกัน คือ
Chapter I : Introduction to TOEIC speaking & writing
Chapter II : TOEIC speaking
Chapter III : TOEIC writing
ซึ่ง Chapter I นี้เราจะลงลึกในเรื่องการจอง การสมัครสอบ การรับผลสอบ และการลงทะเบียนก่อนสอบจริงกัน ไปลุยกันเลย!
การสมัครสอบ TOEIC Speaking and Writing
จัดสอบเดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันพุธสุดท้ายของทุกเดือน เวลาสอบคือ 15.00 น. แปลว่า ถ้าใครทำงานอาจจะต้องลางานช่วงบ่ายเพื่อไปสอบ
การจอง TOEIC Speaking and Writing
โทรไปยังศูนย์สอบ TOEIC (ศูนย์สอบเดียวกับ Listening & Reading) เพื่อสอบถามวันที่ศูนย์จัดสอบ เพื่อความแน่ใจ แล้วเลือกวันที่เราจะสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะถามชื่อสกุล E-mail และหมายเลขบัตรประชาชน ในขั้นตอนนี้ ผู้ที่จะสอบสามารถแสดงความจำนงได้อย่างเดียว การสมัครสอบและที่นั่งสอบของเราจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเราโอนเงินค่าสมัครสอบ 3,500 บาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเลขที่บัญชีที่เราจะต้องโอนไป ศูนย์สอบจะส่งให้ทาง E-mail และเมื่อโอนเงินเรียบร้อยแล้ว แจ้งไปยังศูนย์สอบ และเก็บใบเสร็จจ่ายเงินไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในวันสอบ ทางศูนย์สอบจะส่ง Confirm E-mail ยืนยันสิทธิ์ในการสอบ พร้อมแจ้งรายละเอียดวัน-เวลาสอบ
หลักฐานที่ต้องนำมาในวันสอบ ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน (ไม่สำเนา เอาตัวจริง)
- หน้า Confirm E-mail ที่ศูนย์สอบส่งให้ทาง E-mail (ตรงนี้ต้อง Print หน้าอีเมล์ออกมา)
- ใบเสร็จจ่ายเงินค่าสอบ 3,500 บาท (ไม่สำเนา เอาตัวจริง)*
* หากไม่ได้เอาตัวจริงมา ต้องมารับผลสอบด้วยตนเองพร้อมกับใบเสร็จจ่ายเงินตัวจริง
การรับผลสอบ TOEIC speaking and writing
มีทั้งรับผลด้วยตนเอง และ ส่งทางไปรษณีย์
หากรับผลสอบด้วยตนเอง ผลสอบจะได้ประมาณ 18 วันหลังจากวันสอบ รับผลสอบได้ภายใน 90 วันหลัง
จากผลสอบออก มารับเองที่ศูนย์สอบทุกวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 10.00 – 16.30 น.
การเดินทางมาสอบและลงทะเบียน
วิธีการมายังตึก BB Building ก็สะดวกสบาย มาที่ BTS อโศก แล้วต่อมอเตอไซค์รับจ้างมาที่ตึก BB Building
วันที่มาสอบต้องมาก่อนถึงเวลาสอบ 1 ชั่วโมง นั่นคือ ต้องมาที่ศูนย์สอบตอน 14.00 น.เพราะต้องมาลงทะเบียนก่อน ซึ่งจะมีการ Check-in ตรวจสอบหลักฐานในการสอบ ถ่ายรูปติดผลสอบ เช็คประวัติว่าถูกต้องหรือไม่ แจ้งที่อยู่จัดส่งผลสอบ และเค้าจะให้ใบสีแดง เป็นใบที่แสดงว่าเรามาสอบ TOEIC speaking & writing นะ ถ้ามองไปทางด้านขวาของโต๊ะลงทะเบียนที่เราถ่ายรูป จะเห็น Booklet หนังสือเล่มเล็กๆ แนะนำการสอบ TOEIC Speaking & Writing ฟรี! ควรจะหยิบมาศึกษาก่อน ในนั้นจะอธิบายลักษณะข้อสอบ ตัวอย่างคำถาม เวลาในการสอบ แต่ไม่มีคำตอบนะจ๊ะ เอาไว้อ่านระหว่างรอเข้าห้องสอบ
เวลา 14.40 น. กรรมการจะเริ่มเรียกให้ผู้เข้าสอบ เข้าห้อง สอบห้อง 1907 ในนั้นจะมีคอมพิวเตอร์ และหูฟังที่มีไมค์ เรียงๆ กัน
สัมภาระของท่านสามารถวางไว้ในห้องที่อยู่ติดกับห้องสอบได้ ไม่ฝากไว้ตรงที่ลงทะเบียนนะจ๊ะ สิ่งที่เอาเข้าไปได้คือบัตรประชาชน และบัตรสีแดงที่ให้ไว้ตอนลงทะเบียนเท่านั้น ไม่อนุญาตให้เอาปากกา กระดาษ หรืออะไรเข้าไป แม้แต่ยาดม (เอิ่ม คือลองขอแล้วว่าเอาเข้าไปได้มั้ย ไม่ได้นะจ๊า 555) สอบแต่ละรอบคนจะไม่เยอะ อย่างรอบที่ไปมีคนสอบ 7 คนเท่านั้น คอมพิวเตอร์ในห้องจะมีอยู่ประมาณเกือบ 20 เครื่อง
เมื่อนั่งประจำที่สอบแล้ว กรรมการคุมสอบจะให้เราลงทะเบียนในคอมพิวเตอร์นั้น ตอนลงทะเบียนจะมีเวลากำกับอยู่ทางขวาบนของจอ ซึ่งจะใช้นาฬิกานี้กับตอนสอบด้วย กรรมการจะให้เริ่มพิมพ์ชื่อและเลขบัตรประชาชน ตอบแบบสอบถาม ว่าจบอะไรมา เรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว skill ภาษาอังกฤษไหนที่เราใช้มากที่สุด ฟัง พูด อ่าน หรือ เขียน แล้ว skill ไหนที่ใช้ในชีวิต หรือเจอบ่อยที่สุด ทำงาน field ไหน ตำแหน่งอะไร เคยไปประเทศที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่หรือไม่ ไปนานแค่ไหน ไปทำไม แล้วสอบนี่ สอบไปเพื่อทำอะไร เรียนต่อ หรือสมัครงาน หรือสมัครเรียน หรือเพื่อเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
จากนั้นจะเป็นการ Audio Check ว่าได้ยินเสียงหรือไม่ ดังไปรึเปล่า ปรับให้ดังหรือเบาลง ใน ต่อมา Microphone Check ให้อัดเสียงเราแล้วฟัง ว่าเสียงออกหรือไม่ ไมค์ของศูนย์สอบเป็นไมค์พิเศษ คือจะตัดเสียง background เอาแต่เสียงที่อยู่ในระยะที่ใกล้ที่สุด ตอนที่ลองไมค์ เราจะรู้เลยว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ เพราะเสียงเพื่อนๆที่มาสอบด้วย ก็จะเข้ามาในโสตประสาทเรา ฮึ้ยยยย ต้องมีสมาธิเพิ่มขึ้นอีก ต้องอยู่กับตัวเอง อยู่กับเสียงของเรา ในขั้นตอนการ Check หูฟังและไมค์นี้ อาจจะมีเครื่องที่ไม่ทำงาน ก็ต้องเปลี่ยนเครื่อง แต่ไม่ต้องกลัว เพราะแค่ลงทะเบียนใหม่ เท่านั้น
คำเตือน ในการสอบ ข้างล่างใต้โต๊ะ ตรงบริเวณเท้าที่เราวาง จะมีปลั๊กคอมพิวเตอร์อยู่ อย่าตื่นเต้นจนเท้าของท่านไปเตะปลั๊กใต้โต๊ะหลุดนะจ๊ะ ระวัง แต่ถ้าหลุดเราก็จะสามารถสอบต่อได้ ไม่เป็นไร เพราะเครื่องจะจำสิ่งที่ท่านตอบไปก่อนหน้า เพียงเปิดเครื่องก็จะกลับมายังจุดที่เราสอบจุดเดิม
หลังจาก Check ทุกสิ่งอย่างแล้ว กรรมการจะอธิบายข้อสอบที่เราจะเจอในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า โดยใช้ Booklet ที่แจกฟรีนั่นเอง
ระหว่างนี้จะยังมีเวลาก่อนจะสอบจริงเหลืออยู่ประมาณ 5 นาที ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่บีบหัวใจ ต้องพยายามหาวิธีทำสมาธิ เช่น หายใจเข้า-ออกยาวๆ เหงื่อในมืออาจจะเริ่มซึมๆ ออกมา หลับตา นึกถึงสิ่งดีๆ ผ่อนคลาย แล้วเมื่อเวลานับถอยหลัง 5 4 3 2 1 เริ่มสอบ Speaking เลย!!!!
ใน Chapter I นี้เป็นเพียงช่วงก่อนสอบเท่านั้น ใน Chapter II เราจะลงลึกเรื่อง TOEIC speaking กันนะจ๊ะ อย่าลืมติดตามกัน เป็นการสอบที่มันส์และสนุกอย่าบอกใครเชียว
จบ Chapter 1