ภาพรวมข้อสอบ A Level คณิต
ข้อสอบ A-Level 61 Math1 วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ สาระจำนวนและพีชคณิต, สาระการวัดและเรขาคณิต, สาระสถิติและความน่าจะเป็น, สาระแคลคูลัส ส่วนข้อสอบ A-Level 62 Math2 วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ จำนวนและพีชคณิต, สถิติและความน่าจะเป็น
ภาพรวมข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 1
A-Level Math 1 ออกเรื่องอะไรบ้าง
ข้อสอบ A-Level 61 Math1 วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 : สาระจำนวนและพีชคณิต
ส่วนที่ 2 : สาระการวัดและเรขาคณิต
ส่วนที่ 3 : สาระสถิติและความน่าจะเป็น
ส่วนที่ 4 : สาระแคลคูลัส
ข้อสอบ A-Level Math 1 ออกกี่ข้อ
ข้อสอบมีทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือกจำนวน 25 ข้อ และแบบระบายคำตอบที่เป็นตัวเลขจำนวน 5 ข้อ
A-Level Math 1 คะแนนเต็มเท่าไร
คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก 75 คะแนน และแบบระบายคำตอบที่เป็นตัวเลขจำนวน 25 คะแนน
ตัวอย่างข้อสอบ A-Level Math 1
ข้อสอบ A-Level คณิตศาสตร์ 1 ยากไหม
ข้อสอบนี้มีขอบเขตเนื้อหาของข้อสอบอิงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนั้น จะเป็นหัวข้อเรื่องต่าง ๆ ที่น้อง ๆ เคยเรียนจากในห้องเรียนมาอยู่แล้ว เพียงแต่ข้อสอบอาจจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และอาจต้องมีการบูรณาการระหว่างเนื้อหาในแต่ละเรื่อง จึงทำให้ข้อสอบนี้จะไม่ยากเกินความสามารถหากน้อง ๆ มีการเตรียมตัวและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
คะแนนสอบ A-Level คณิต 1 ใช้ยื่นคณะอะไรได้บ้าง?
ส่วนใหญ่แล้วคะแนนสอบ A Level คณิต 1 จะใช้ยื่นในคณะ/สาขาที่เป็นสายวิทยาศาสตร์ต่างๆ เช่น คณะทางด้านแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพต่าง ๆ , วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็มีบางคณะ/สาขาที่เป็นสายศิลป์ของบางมหาวิทยาลัยมีการขอคะแนนนี้ด้วย เช่น สาขาทางด้านนิติศาสตร์, นิเทศศาสตร์ หรือสาขาทางด้านบริหารธุรกิจ เป็นต้น
ภาพรวมข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2
ข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2 ออกเรื่องอะไรบ้าง
ข้อสอบ A-Level 62 Math2 วิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 : จำนวนและพีชคณิต
ส่วนที่ 2 : สถิติและความน่าจะเป็น
ข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2 ออกกี่ข้อ
ข้อสอบมีทั้งหมด 30 ข้อ แบ่งเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือกจำนวน 25 ข้อ และแบบระบายคำตอบที่เป็นตัวเลขจำนวน 5 ข้อ
A Level คณิตศาสตร์ 2 คะแนนเต็มเท่าไร
คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็นแบบปรนัย 5 ตัวเลือก 75 คะแนน และแบบระบายคำตอบที่เป็นตัวเลขจำนวน 25 คะแนน
ตัวอย่างข้อสอบ A Level คณิต 2
ข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2 ยากไหม
ข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2 มีขอบเขตเนื้อหาของข้อสอบอิงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกัน ดังนั้น น้อง ๆ จะคุ้นเคยกับเนื้อหาบทต่าง ๆ อยู่แล้วจากการเรียนในห้องเรียน หรือหากใครยังไม่เคยเรียนหัวข้อไหน ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ ซึ่งข้อสอบอาจจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และอาจต้องมีการบูรณาการระหว่างเนื้อหาในแต่ละเรื่อง จึงทำให้ข้อสอบนี้จะไม่ยากเกินความสามารถหากน้อง ๆ มีการเตรียมตัวและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
คะแนนสอบ A Level คณิต 2 ใช้ยื่นคณะอะไรได้บ้าง?
ข้อสอบ A Level คณิตศาสตร์ 2 สามารถใช้ยื่นได้หลากหลายมาก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การยื่นในสาขาสายวิทย์เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น คณะอักษรศาสตร์, คณะรัฐศาสตร์, คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี/บริหารธุรกิจ, คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์, คณะนิเทศศาสตร์, คณะนิติศาสตร์, คณะศิลปศาสตร์, คณะพยาบาลศาสตร์, คณะศิลปกรรมศาสตร์, คณะเศรษฐศาสตร์, คณะสังคมศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์ เป็นต้น หากน้อง ๆ สนใจสาขาใดของคณะใดก็สามารถดูเกณฑ์อย่างละเอียดจากประกาศรับสมัครของแต่ละสาขาได้เลย
A Level คณิต 1 กับ A Level คณิต 2 ต่างกันอย่างไร
ข้อสอบ A-Level 61 Math1 คือ เนื้อหาคณิตศาสตร์พื้นฐาน + เพิ่มเติม ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็มักจะเน้นไปทางคณิตศาสตร์เพิ่มเติมมากกว่า ส่วนข้อสอบ A-Level 62 Math2 จะเป็นคณิตพื้นฐานล้วน ๆ เป็นหลัก ทั้งนี้ เรื่องที่จะเจอได้ทั้งในคณิต 1 และคณิต 2 จะเป็นเรื่องเซต หลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น ลำดับและอนุกรม และสถิติ นอกนั้นก็อาจจะเน้นต่างกันออกไป
A-Level คณิต สมัครสอบยังไง
- เข้าเว็บไซต์ mytcas.com โดยหากยังไม่เคยลงะเบียน myTCAS มาก่อน ให้ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อน
- Login เข้าสู่ระบบ โดยกรอกข้อมูล Username และ Password
- เลือกวันสอบ และเลือกวิชาที่ต้องการสอบ จากนั้นคลิกที่ “ไอคอนลูกศร” ด้านขวา แล้วเข้าไปกดเลือกวิชาที่ต้องการต่อได้เลย
- เลือกสนามสอบ A-level โดยเรียงลำดับที่ต้องการสอบให้ครบ ยกเว้นแต่จังหวัดที่เลือกมีสนามสอบน้อยกว่า 5 ที่ ให้เลือกสนามสอบในจังหวัดทั้งหมดได้เลย ส่วนกรณีที่สนามสอบบางแห่งเต็มให้เลือกสนามสอบที่เปิดใหม่ในจังหวัดก่อนที่จะเลือกสนามสอบต่างจังหวัด
- ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย กดที่ “บันทึกรายการ” จากนั้นระบบจะสรุปรายวิชาที่สอบมาให้ ให้คลิก “ยืนยันการสมัครสอบ” แล้วตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง
- จากนั้นยืนยันการสมัครด้วยรหัส OTP ทางหมายเลขโทรศัพท์ ระบบจะขึ้นสถานะว่า รอการชำระเงิน และปรากฏข้อมูลวิชาที่สอบ สนามสอบ รายละเอียดการสอบขึ้นมาทั้งหมด
- ให้กด “พิมพ์ใบชำระเงิน” โดยวิธีชำระเงินสามารถสแกน QR Code ได้ทุกธนาคาร ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือชำระเงินได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่น อีเลฟเว่น) ทุกสาขา มีค่าธรรมเนียมต่อรายการ 10.-
เทคนิคเตรียมตัวสอบ A Level คณิต
- ฝึกทำข้อสอบเก่าเยอะ ๆ ยิ่งฝึกก็จะยิ่งคุ้นเคยกับแนวข้อสอบ แต่ก็ต้องไม่หักโหมจนเกินไป ให้เน้นค่อย ๆ ฝึกสะสมไปเรื่อย ๆ
- เมื่อเราฝึกมาเยอะ เราก็จะรู้ว่าตัวเราถนัดข้อสอบแนวไหน ถนัดเรื่องไหน ดังนั้น ควรบริหารเวลาในการทำข้อสอบให้ดี โดยให้เน้นทำข้อที่ถนัดก่อน
- เริ่มทำจากข้อสอบแบบอัตนัยไปก่อน แล้วตามด้วยข้อสอบแบบปรนัย เน้นทำข้อที่ทำได้ไปก่อน และควรฝนคำตอบไว้เลย ไม่ควรเก็บมาฝนทีหลังเพราะอาจจะไม่ทันเวลาได้
คำถามยอดนิยมสำหรับน้องที่กำลังจะสอบ A Level คณิต
ถ้าติวเฉพาะคณิต 1 จะสามารถใช้เตรียมสอบได้ทั้งคณิต 1 และคณิต 2 เลยหรือเปล่า?
การติวเฉพาะคณิต 1 ไม่สามารถใช้สอบคณิต 2 ได้ทั้งหมด เพราะแม้หัวข้อที่ออกสอบจะใกล้เคียงกัน แต่การเน้นของแต่ละข้อสอบจะเน้นกันไปคนละจุด เช่น คณิต 1 ออกเรื่องตรรกศาสตร์ แต่คณิต 2 จะไปเน้นตรรกศาสตร์เบื้องต้น หรือคณิต 1 ออกเรื่องความสัมพันธ์และฟังก์ชั่น แต่คณิต2 จะไปเน้นที่ฟังก์ชั่น เป็นต้น ดังนั้น การเตรียมตัวสอบที่เหมาะสมควรจะติวให้เฉพาะเจาะจงไปในแต่ละข้อสอบจะดีที่สุด
เด็กสายวิทย์จำเป็นต้องสอบคณิต 1 ส่วนเด็กสายศิลป์ต้องสอบคณิต 2 ใช่ไหม?
การเลือกสอบจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเด็กสายวิทย์หรือเด็กสายศิลป์ แต่ขึ้นอยู่กับเกณฑของคณะ/สาขาที่จะสมัครเป็นหลัก ว่ากำหนดให้ยื่นเป็นคณิต 1 หรือคณิต 2 น้อง ๆ ก็สมัครสอบตามเกณฑ์นั้น ๆ ได้เลย
ถ้าต้องการสอบทั้ง A Level คณิต 1 และคณิต 2 ควรเตรียมตัวอย่างไรดี?
ควรเตรียมตัวให้ครบทุกบทที่มีการออกสอบในทั้งคณิต 1 และคณิต 2 โดยเฉพาะบทที่มีออกทั้งในข้อสอบทั้งสองวิชา และแนะนำให้ดูเกณฑการยื่นประกอบกันไปว่าคณะ/สาขานั้น ๆ ให้น้ำหนักกับคณิต 1 หรือคณิต 2 มากกว่า เราก็เน้นไปที่ข้อสอบตัวนั้นให้เยอะกว่าได้
แนะนำคอร์สเรียนตัวต่อตัว A-Level คณิต
สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังจะสอบ A-Level คณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคณิต 1 หรือคณิต 2 ที่จุฬาติวเตอร์เรามีทั้งคอร์สเรียนสดแบบตัวต่อตัว และคอร์สออนไลน์แบบดูวิดีโอที่สามารถเรียนเวลาไหนก็ได้ ซึ่งพร้อมที่จะเป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบให้กับน้อง ๆ ทุกคนที่ไม่ว่าจะอยากเน้นทำข้อสอบเก่า หรืออยากเริ่มเรียนตั้งแต่พื้นฐานก็สามารถระบุได้ และยังเลือกวัน เวลาเรียนที่สะดวกได้อีกด้วย