เรียน TOEIC เตรียมสอบ
เนื้อหาที่ต้องเจอในการเรียน TOEIC (Test of English for International Communication) จะประกอบไปด้วย ทักษะภาษาอังกฤษทางด้านการฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) ซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องไวยกรณ์ (Grammar) และ คำศัพท์ TOEIC ด้วย
โดยเนื้อหาหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาหรือบทพูดที่อยู่ในพาร์ทการฟัง หรือเนื้อเรื่องที่จะอยู่ในพาร์ทการอ่าน ก็มักจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือที่ทำงาน เช่น การพูดประกาศ การสนทนาถามหาว่าห้องประชุมอยู่ที่ไหน รายละเอียดอีเมลติดต่องาน รายละเอียดกำหนดการกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท โฆษณา บทความทางธุรกิจ หรือจดหมายรับรอง เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้จะเป็นข้อสอบไวยกรณ์หรือคำศัพท์ เวลาที่เราเรียนติว TOEIC ก็ยังคงเป็นแนวธุรกิจเช่นเดียวกัน โดยเราสามารถแบ่งหัวข้อการเรียนตามพาร์ท ข้อสอบ TOEIC ได้ดังนี้
- TOEIC Part 1 Photographs ฟังแล้วหาคำตอบที่อธิบายรูปภาพได้ดีที่สุด
- TOEIC Part 2 Question-Response ฟังแล้วหาคำตอบที่เหมาะสมกับบทสนทนา
- TOEIC Part 3 Conversations ฟังบทสนทนาแล้วตอบคำถาม
- TOEIC Part 4 Short Talks ฟังบทพูดแล้วตอบคำถาม
- TOEIC Part 5 Incomplete Sentences การทำประโยคให้สมบูรณ์ตามหลักไวยกรณ์
- TOEIC Part 6 Text Completion การเติมคำหรือข้อความให้เนื้อเรื่องที่โจทย์กำหนดมานั้นสมบูรณ์และถูกต้อง
- TOEIC Part 7 Reading Comprehension การอ่านเพื่อจับใจความและตอบคำถาม
เรียน TOEIC ฟรีด้วยตัวเองจากที่ไหนได้บ้าง
เราสามารถเรียน TOEIC ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ฟรี แต่โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเรียนจากแบบฝึกหัดมากกว่า โดยจะมีหลาย ๆ เว็บไซต์ที่จะรวบรวมแนวข้อสอบ โจทย์ แบบฝึกหัดของข้อสอบ TOEIC มาให้เราลองฝึกทำดู บางที่ก็ทำเป็นโปรแกรมทำข้อสอบให้เลย แต่บางเว็บไซต์อาจจะแค่มีแนวข้อสอบให้ดูพร้อมเฉลย ซึ่งเฉลยก็จะมีความละเอียดแตกต่างกันออกไป มีคำอธิบายบ้าง ไม่มีบ้าง
อย่างไรก็ตาม เรียน TOEIC ด้วยตัวเองจึงมักจะเหมาะกับผู้ที่พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีการปรับพื้นฐานให้ละเอียดมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นช่องทางการเรียน TOEIC ฟรีที่สามารถช่วยให้เราฝึกทำข้อสอบให้คล่องขึ้นได้ เว็บไซต์ตัวอย่าง เช่น www.examenglish.com หรือ www.ets.org
เรียน TOEIC ที่ไหนดี
รูปแบบการเรียน TOEIC มีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบเรียนสดและคอร์สเรียน TOEIC ออนไลน์ สำหรับใครที่กำลังมองหาว่าจะเรียน TOEIC ออนไลน์ หรือสอนสดที่ไหนดี หรือคนที่ไม่อยากเรียนด้วยตัวเอง
แนะนำให้เลือก คอร์ส ติว TOEIC ในแบบที่เราสะดวกมากที่สุด เช่น หากไม่ติดเรื่องการเดินทางก็เลือกคอร์สสอนสด หรือหากไม่สะดวกเดินทางแนะนำเลือกเรียนคอร์สออนไลน์ เพราะสิ่งที่สำคัญคือความต่อเนื่องในการเรียน และจะต้องมีเวลาในการฝึกทำแบบฝึกหัดและทบทวนบทเรียนด้วย
นอกจากนี้การเรียน TOEIC ยังต้องคำนึงถึงเนื้อหาด้วยว่าคอร์สนั้น ๆ มีเนื้อหาครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งคอร์สเรียน TOEIC แต่ละแบบอาจมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็แนะนำให้เราเลือกในแบบที่เราสะดวกเป็นหลัก
คอร์สเรียน TOEIC Online รับรองผล
เรียน TOEIC ออนไลน์ คอร์สนี้ คือ การเรียน ติว TOEIC แบบวิดีโอเพื่อช่วยให้มีความพร้อมในการสอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเด่นของคอร์สนี้คือการที่เราจะเปิดเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต มีเอกสารประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด ทั้งง่ายและสะดวกสบาย
คอร์ส เรียน TOEIC Online เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ว่างไม่เป็นเวลา และไม่สามารถวางแผนตารางเรียนล่วงหน้าได้ ถือเป็นคอร์สที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บไซต์หรือจาก pantip เกี่ยวกับการเรียนว่าจะเรียน TOEIC ออนไลน์ที่ไหนดี ก็สามารถให้คอร์สนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเตรียมตัวสอบได้เช่นกัน สนใจคลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://online.chulatutor.com/p/toeic-online
คอร์สเรียน TOEIC ตัวต่อตัว
การเรียนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียน TOEIC แบบสอนสด โดยทางสถาบันจะมี เรียน TOEIC ทั้งสอนสดตัวต่อตัวที่สถาบัน และ เรียน TOEIC ตัวต่อตัวแบบออนไลน์ ทั้งนี้แล้วแต่ผู้เรียนสะดวก
ผู้เรียน TOEIC สามารถกำหนด วันและเวลาที่เรียนเองได้ โดยคอร์สติวตัวต่อตัวคอร์สนี้จะตอบโจทย์ผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้การเรียนการสอนก็จะยึดตามผู้เรียนเป็นหลัก คนที่พื้นฐานอ่อนก็สามารถเริ่มจากการปูพื้นฐานก่อนได้ แต่หากใครที่พื้นฐานดีอยู่แล้ว อยากลงแนวข้อสอบ TOEIC เลย ก็สามารถระบุได้
เรียน TOEIC ตัวต่อตัว | |||
จำนวนนักเรียน | จำนวนชั่วโมง | ||
20 ชม. | 30 ชม. | 40 ชม. | |
1 คน | 22,000 ฿ | 33,000 ฿ | 44,000 ฿ |
2 คน ( ประหยัดถึง 25% ) | 33,000 ฿ | 49,500 ฿ | 66,000 ฿ |
3 คน ( ประหยัดถึง 40% ) | 39,600 ฿ | 59,400 ฿ | 79,200 ฿ |
หมายเหตุ :
|
รีวิว เรียน TOEIC
คอร์สเรียน TOEIC สอนสด รับรองผล
เรียน TOEIC สอนสด รับรองผล เป็นการเรียนแบบกลุ่มที่ผู้เรียนและผู้สอนสามารถพูดคุยกันได้โดยตรง เนื้อหาการเรียนจะครบถ้วนทั้งการปรับพื้นฐาน Grammar และสอนวิธีการทำข้อสอบแบบครบทุกพาร์ท ไม่ว่าจะเป็น Listening หรือ Reading
ดังนั้น คอร์ส เรียน TOEIC เหมาะกับทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่พื้นฐานอ่อน ไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ ยังไม่เคยเห็นแนวข้อสอบ หรืออาจจะพอมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว แต่ยังอยากทำแบบฝึกหัดที่เยอะขึ้นกว่านี้
คอร์สเรียนนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเรียน TOEIC ที่ไหนดี ค้นหาข้อมูลมาเยอะทั้งใน pantip และเว็บบปอร์ดต่าง ๆ แต่ก็ยังเลือกไม่ถูก ให้คอร์สเรียน TOEIC รับรองผลที่นี่เป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบได้แล้ววันนี้
รหัสคอร์ส | วันเรียน | รอบ | เวลา | หมายเหตุ | เหลือที่นั่ง | อาจารย์ |
เรียน TOEIC ไม่มีพื้นฐาน ไม่ว่าใครก็เพิ่มทักษะให้กับตนเองได้
ไม่ต้องกังวลใจสำหรับใครก็ตามที่วางแผนสอบ TOEIC แต่ปัญหาคือตนเองแทบไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย และไม่กล้าสมัครคอร์สเรียน TOEIC ด้วยกังวลว่าจะตามเพื่อนไม่ทัน หรือเรียนแล้วไม่คุ้มค่า ถ้าคุณได้รู้จักกับคอร์สติวสอบจาก CHULATUTOR ยืนยันทุกหลักสูตรจะเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานไปสู่ระดับ Expert ดังนั้นความรู้ที่ได้รับจากการเรียน TOEIC กับสถาบันของเราจึงครบถ้วน หลังจบคอร์สนำเอาเทคนิคและข้อมูลทุกเรื่องไปใช้สอบและต่อยอดกันไม่ยากเลย
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง 16 วัน
สำหรับคนที่อยากรู้เทคนิคเตรียมสอบ TOEIC ภายใน 16 วัน จะขอแบ่งออกเป็น 3 ช่วง นั่นคือ ช่วง 8 วันแรกจะเน้นเรื่องของการทบทวนพื้นฐานในเรื่อง Grammar TOEIC เพื่อต่อยอดความรู้และนำไปใช้สอบได้กับทุกพาร์ท วันที่ 9-12 จะเน้นติวสอบ Listening Part และวันที่ 13-16 จะติว TOEIC Reading Part เป็นหลัก
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 1 โดยเริ่มต้นพื้นฐาน Grammar
สังเกตว่าเนื้อหาในวันแรกจะเน้นเกี่ยวกับ Part of Speech , Word Forms, Count Nouns VS Uncounted Nouns, Pronouns, Prepositions, Conjunctions, Verbsเป็นหลัก เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการทำ Sentence Completion พยายามทบทวน Suffix เพื่อบอกประเภทของคำและเนื้อหาทั่วไป และพื้นฐานทั้ง กริยา คำนาม Adjective, Adverb นามนับได้-นามนับไม่ได้ คำศัพท์นาม คำบุพบท คำเชื่อม
ติว TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 2 เน้นเรื่อง Tenses, Passive Voice, Present Subjunctive, Gerunds and Infinitives,Subject-Verb Agreement
วันต่อมาจะเริ่มจาก Subject-Verb Agreement คือ การผันประธานและกริยา ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญของไวยากรณ์ ทำความเข้าใจทั้งเรื่อง Tense และการออกเสียง การเปลี่ยนประโยคทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ให้ถูกต้องตามหลัก ทบทวนศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับประโยคกลุ่ม Present Subjunctive
ติวสอบ TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 3 เน้นเรื่อง Causative Forms, Comparisons, Adverbs of Frequency, Word Choices, Clauses, Conditionals
Causative Forms หรือ เหตุการณ์ที่บอกได้ว่าส่งผลต่อคน ๆ หนึ่งยังไง จะมีคำศัพท์สำคัญเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น help, let, make, have, get ทบทวนโครงสร้างประโยคที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบ เรื่องความปริมาณ จำนวน ความถี่ทั้งแบบเจาะจงและไม่เจาะจง รวมถึง Word Choices, Clauses ก็จะเน้นคำศัพท์ที่แต่ละคนมีอยู่ในตัวเอง
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 4 ทบทวนไวยากรณ์ทั้งหมด และเริ่มทำแบบฝึกหัด TOEIC
การติวสอบ TOEIC ด้วยตนเองที่ดีเมื่อเข้าใจหลักพื้นฐานไวยากรณ์ตลอด 3 วันแล้ว คราวนี้ก็ให้ทบทวนแบบคร่าว ๆ และฝึกทำแบบฝึกหัดจริงว่าความรู้ที่มีมากน้อยแค่ไหน สมกับที่ติว TOEIC มา คำแนะนำอีกอย่างคือ เมื่อทำแล้วเฉลยปรากฏข้อไหนผิดให้วงข้อถูกไว้จะได้รู้แนวทางคิดใหม่
ติว TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 4 – วันที่ 8 เน้นทำ Grammar Practice ล้วน ๆ
นี่คือ 4 วันแห่งการทำ Grammar Practice หรือซื้อมทำแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับ Grammar ล้วน ๆ ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย ซึ่งปัจจุบันเว็บไซต์ดาวน์โหลดข้อสอบเก่าหรือแบบฝึกหัดเพื่อใช้เรียน TOEIC มีเยอะมาก ย้ำว่าทำให้บ่อยเข้าไว้ เป็นการสร้างพื้นฐานอันยอดเยี่ยม ต่อให้เจอข้อสอบจริงแบบไหนก็หายห่วง มีทั้งลองทำเพื่อเข้าใจและทำพร้อมจับเวลาได้เลย
ติวสอบ TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 9 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Photographs
เป็นการสอบ Listening ส่วนที่ 1 ตอบคำถามจากรูปภาพ 10 ภาพ 10 คำถาม มี 4 ตัวเลือก ต้องคอยระวังคำที่อ่านคล้ายกันแต่คนละความหมาย คำที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้มีอยู่ในรูป คำหลักถูกแต่งประโยคไม่เกี่ยวกัน ตัดตัวเลือกให้เร็วและจับคำพูดให้ถูก
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 10 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Question-Response
ข้อสอบ TOEIC Listening ส่วนที่ 2 จะมี 3 ตัวเลือก ซึ่งจุดหลักที่ควรจับทิศทางให้ถูกคือ คำถามประเภท WH Question who, what, when, where, why, how, how much, how many หรือพวกคำถามทิ้งท้ายประโยค isn’t she? aren’t you? รวมถึงคำถามเน้นการตอบ Yes – No Question ซึ่งอาจขึ้นต้นคำถามด้วย Why not ก็ได้
ติว TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 11 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Conversations + Short Talks
อีกส่วนของข้อสอบ Listening นับเป็นส่วนยากสุดเลยก็ว่าได้ ต้องตอบ Conversations 3 เรื่อง รวม 30 ข้อ และตอบ Short Talks อีก 30 ข้อ แนะนำให้กวาดสายตาอ่านโจทย์ก่อนจะมีประโยคสนทนาเกิดขึ้น โดยดูคำถาม 3 ข้อ จับคีย์เวิร์ดของโจทย์นั้น ๆ ให้ชัดเจน ขีดเส้นใต้ไว้ได้เลย
ติวสอบ TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 12 ทำข้อสอบเก่าเรื่อง TOEIC Listening
เมื่อทบทวนเรื่องการฟังมาตลอด 3 วันเต็ม คราวนี้ก็มาเริ่มติวสอบ TOEIC แบบจัดเต็มในพาร์ทนี้ด้วยวิธีจับเวลา ทำบรรยากาศรอบตัวให้เหมือนสอบจริง ไม่ใช่แค่การเสริมความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความประหม่าได้อีกด้วย
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 13 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading เรื่อง อีเมล ประกาศ บทความ คำศัพท์
อีเมลเป็นสิ่งที่ออกสอบในส่วนของ Reading Comprehension ตลอด จับสังเกตตอนขึ้นต้นประโยคมักเป็น Main Idea ส่วนบทความประเภทอื่น เช่น ประกาศ บทความ ไม่ยากมาก หากพอเข้าใจคำศัพท์ก็ช่วยให้ตอบคำถามได้ ระวังแค่โจทย์อาจมีใช้คำว่า Not หรือ Except หมายถึง ยกเว้นข้อใด
ติว TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 14 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading
ให้ทำแบบเดิม คือ อ่านอีเมล ประกาศ บทความ ค้นคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก แต่ลองเปลี่ยนเนื้อหาให้หลากหลาย เช่น โปรโมชั่น การลดราคา บทความด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ฯลฯ
ติวสอบ TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 15 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading เรื่อง บทความจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์
ลองหาบทความภาษาอังกฤษจากนิตยสารและหนังสือพิมพ์มาอ่านดู เป็นลักษณะของข่าวสั้น สกู๊ป หรือบทความใด ๆ ก็ได้ เพื่อให้เข้าใจโทนเนื้อหาว่าสื่อถึงอะไร รวมถึงตัวอย่างโปสการ์ดที่เขียนให้อีกฝ่ายก็มักออกสอบบ่อยพอควร
เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 16 TOEIC Reading เรื่อง โบชัวร์ แบบฟอร์มลงทะเบียน และอื่น ๆ
วันสุดท้ายก็ยังเน้นกันที่พาร์ท Reading แต่เป็นรูปแบบของโบชัวร์ บทความโฆษณา แบบฟอร์มลงทะเบียน เงื่อนไขการสมัครต่าง ๆ พยายามท่องศัพท์หมวดที่ตนเองไม่มั่นใจ และอย่าลืมนอนเร็ว ทำสมองให้โล่ง เพื่อจะได้ตื่นเช้าพร้อมสำหรับการเข้าสอบ อาจมีการติว TOEIC เพิ่มเติมแบบผ่าน ๆ อีกเล็กน้อยก็ไม่ว่ากัน