Duolingo คืออะไร ข้อดี ข้อเสีย Duolingo
Duolingo คืออะไร
Duolingo คืออะไร
Duolingo คือ การสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษแบบออนไลน์ ประกอบไปด้วย 4 ทักษะ ได้แก่ Reading (การเขียน), Listening (การฟัง), Writing (การเขียน), และ Speaking (การพูด) ลักษณะข้อสอบ Duolingo จะเป็นแบบ Computer Adaptive Tes สำหรับผลคะแนนสอบ Duolingo สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้มากถึง 3,000 แห่งทั่วโลก
duolingo อ่านว่า
duolingo อ่านว่า ดิวโอลิงโก
ข้อดี ข้อเสีย Duolingo
ข้อดี Duolingo
1. สามารถสอบที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นการสอบออนไลน์
การสอบ Duolingo ผู้สอบสามารถสอบที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาสอบยังสนามสอบเหมือน TOEFL IELTS ขอเพียงแค่สถานที่สอบ Duolingo ต้องมีแสงสว่างเพียงพอให้ผู้คุมสอบสามารถเห็นใบหน้าผู้สอบผ่านทางกล้องได้
2. ค่าสอบ Duolingo ไม่แพง
ค่าสอบ Duolingo อยู่ที่ 49 USD หรือประมาณ 1,600 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับข้อสอบอื่นๆ และผู้สอบยังไม่ต้องเสียค่าในการไปสอบหรือรับผลสอบอีกด้วย เพราะผลสอบ Duolingo จะส่งเข้าเมล์ผู้สอบโดยตรง
3. รู้คะแนนหลังสอบ Duolingo ภายใน 48 ชั่วโมง
คะแนนสอบ Duolingo จะส่งเข้าเมล์ผู้สอบโดยตรง หลังจากสอบเสร็จภายใน 48 ชม ซึ่งถือว่าผลสอบออกเร็วมากเมื่อเทียบกับ คะแนนสอบภาษาอังกฤษอื่นๆ จึงทำให้ การสอบ Duolingo เป็นที่นิยม โดยเฉพาะผู้สอบที่ต้องรีบใช้คะแนนยื่นเข้าศึกษาต่อ ปริญญาตรี โท เอก หลักสูตรนานาชาติ
4. ข้อสอบค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับ ข้อสอบ TOEFL IELTS
คำศํพท์ Duolingo ค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับคำศัพท์ TOEFL , TOEFL IELTS
ข้อเสีย Duolingo
เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษแบบใหม่ จึงอาจจะไม่เป็นที่นิยม
เนื่องจาก Duolingo พึ่งจัดสอบ Duolingo English Test มาไม่นาน เมื่อเทียบกับข้อสอบภาษาอังกฤษ อื่นๆ อย่างเช่น TOEFL IELTS จึงทำให้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม
ค่าสอบ Duolingo
1,600 บาท หรือ 49 USD
Duolingo สอบอะไรบ้าง
ข้อสอบจะวัด 4 ทักษะ Reading (การเขียน) Listening (การฟัง) Speaking (การพูด) และ Writing (การเขียน) โดยจะวัดระดับด้านภาษาแบบจับคู่ ดังนี้
1. Read and Complete | 10. Listen, then Speak |
2. Read and Select | 11. Listen, then Speak |
3. Listen and Select | 12. Complete the Sentences |
4. Listen and Type | 13. Complete the Passage |
5. Read aloud | 14. Highlight the Answer |
6. Write about the Photo | 15. Identify the Idea |
7. Speak about the Photo | 16. Title the Passage |
8. Read, then Write | 17. Speaking Sample |
9. Read, then Speak | 18. Writing Sample |
Duolingo คะแนนเต็มเท่าไร?
คะแนนเต็ม 160 คะแนน ซึ่งผลคะแนนสอบแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
10 – 55 คะแนน สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานทั่วไป
60 – 85 คะแนน สามารถเข้าใจการสื่อสาร การบรรยายงาน และการเขียนในที่ทำงานและโรงเรียน
90 – 115 คะแนน สามารถสื่อสารโต้ตอบกับเจ้าของภาษาในหัวข้อบทสนทนาที่ไม่คุ้นเคยได้
120 – 160 คะแนน สามารถสื่อสารทุกบริบทได้อย่างคล่องตัวทั้งภาษาเขียนและภาษาพูด
สำหรับผลสอบ Duolingo จะแบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้
1. Literacy ทดสอบความสามารถในการอ่านและการเขียนพร้อมกัน
2. Conversation ทดสอบด้านความสามารถในการฟังและการพูดพร้อมกัน
3. Comprehension ทดสอบความสามารถในการอ่านและการฟังพร้อมกัน
4. Production ทดสอบความสามารถในการเขียนและการพูดพร้อมกัน
คะแนน Duolingo มีอายุกี่ปี
คะแนนสอบอยู่ได้ 2 ปี
Duolingo ส่งคะแนนให้มหาลัยกี่วัน ?
ผลคะแนนส่งให้ถึงมหาลัยภายใน 2 วันหลังสอบเสร็จ
หากสอบ Duolingo ไม่ผ่านต้องทำอย่างไร?
หากคะแนนสอบไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถสมัครสอบได้อีกครั้งภายหลัง 30 วัน
มหาลัยในประเทศไทย ที่รับคะแนน Duolingo
– Chulalongkorn University, B.A. in Communication Management
– Chulalongkorn University BALAC, Faculty of Arts
– Chulalongkorn University – Chemical and Process Engineering (ChPE) Faculty of Engineering
– Chulalongkorn University, CommDe, Faculty of Architecture
– Chulalongkorn University – EBA Program, Faculty of Economics
– School of Integrated Innovation (ScII), Chulalongkorn University
– Thammasat University, B.E. International Program
– Mahidol University International College
– Faculty of Information Communication and Technology, Mahidol University
– King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT)
– International College of Rajamangala University of Technology Krungthep
– Bangkok University
– CMKL University
– Dusit Thani College
– Faculty of Hospitality and Tourism, Prince of Songkla University, Phuket Campus
5 สิ่งที่ต้องเตรียมในการสอบ Duolingo English Test
1. แล็ปท็อป กล้องติดแล็ปท็อป ไมโครโฟน และลำโพง
2. บราวเซอร์ Chrome หรือ Opera
3. อินเตอร์เน็ต
4. พาสปอร์ต บัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่
5. ผู้สอบต้องอยู่คนเดียว บริเวณรอบข้างสว่างและเงียบสนิท